EP.7
หลงทาง
ในป่ารกทึบ เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นดินแข็งกระด้าง ที่มีใบไม้แห้งกรอบล่วงหล่นโดยรอบ เกิดเป็นเสียงดังทุกครั้งที่ขยับตัว ในมือบางก็กำล็อกเก็ตแน่น
‘สิ่งนี้มันคงจะพาเรามาที่นี่สินะ’
เธอรีบลุกขึ้นมองไปรอบๆ บริเวณนั้นแต่ที่เห็นเป็นเพียงป่าๆๆ ไม่มีแสงสว่างใดลอดเข้ามา แน่นอนนี่มันเป็นเวลากลางคืน เฮอร์ไมโอนี่คลำหาไม้กายสิทธิ์ในเสื้อคลุมชุดนอนสีน้ำตาล เธอกำไม้กายสิทธิ์ในมือแน่ด้วยความวิตก ก่อนจะเริ่มออกเดินสำรวจว่าที่นี่คือที่ไหน และมีอันตรายอะไรรอเธออยู่ ...ซึ่งมีแน่
เธอรีบลุกขึ้นมองไปรอบๆ บริเวณนั้นแต่ที่เห็นเป็นเพียงป่าๆๆ ไม่มีแสงสว่างใดลอดเข้ามา แน่นอนนี่มันเป็นเวลากลางคืน เฮอร์ไมโอนี่คลำหาไม้กายสิทธิ์ในเสื้อคลุมชุดนอนสีน้ำตาล เธอกำไม้กายสิทธิ์ในมือแน่ด้วยความวิตก ก่อนจะเริ่มออกเดินสำรวจว่าที่นี่คือที่ไหน และมีอันตรายอะไรรอเธออยู่ ...ซึ่งมีแน่
เธอพยายามหายตัวกลับไปยังบ้านโพรงกระต่ายแต่มันก็ไร้ผล ป่านี้คงถูกเสกให้ไม่สามารถหายตัวได้
เฮอร์ไมโอออกเดินเท้าไปเรื่อยๆ ผ่านไปไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าบวกกับความง่วงงุนที่ประดังเข้ามาทำให้เธอเดินเซจนเกือบล้มไปหลายรอบ ด้วยความหนาวเย็นที่ค่อยๆ บาดผิวหนังอันบอบบางจนต้องกระชับเสื้อคลุมตัวบางให้แนบตัวมากขึ้น ทั้งหนาว ทั้งกลัว เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหมดความหวังแต่ก็ยังฝืนเดินไปได้อีกเพียงนิดเดียวเธอก็ล้มลงหมดท่าอยู่กลางป่านั้น…
เฮอร์ไมโอออกเดินเท้าไปเรื่อยๆ ผ่านไปไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงเธอก็รู้สึกเหนื่อยล้าบวกกับความง่วงงุนที่ประดังเข้ามาทำให้เธอเดินเซจนเกือบล้มไปหลายรอบ ด้วยความหนาวเย็นที่ค่อยๆ บาดผิวหนังอันบอบบางจนต้องกระชับเสื้อคลุมตัวบางให้แนบตัวมากขึ้น ทั้งหนาว ทั้งกลัว เฮอร์ไมโอนี่เริ่มหมดความหวังแต่ก็ยังฝืนเดินไปได้อีกเพียงนิดเดียวเธอก็ล้มลงหมดท่าอยู่กลางป่านั้น…
“หมดท่าซะแล้วเด็กน้อย…”
ณ ศูนย์บัญชาลับของจอมมาร
เฟร็ดค่อยๆ พยายามลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบาก ร่างกายเขาปวดระบมทั้งร่างราวกับผ่านการวิ่งมาซัก ร้อยกิโลเมตรโดยไม่หยุดพัก ตาคมมองไปรอบๆ ตัว ก่อนจะพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนโต๊ะอาหารขนาดยาวมากๆ แม้จะไม่ยาวเท่ากับที่ฮอกวอต โดยรอบมีผู้เสพความตายกำลังนั่งมองเขาด้วยท่าทีสงบนิ่ง หากแต่สายตาเต็มไปด้วยความสมเพช และรังเกียจอย่างไม่ปิดบัง
“วันนี้คนที่มาสมทบกับพวกเราคือ เฟร็ด วีสลี่ย์ อดีตนักเรียนของฮอกวอต และเป็นเจ้าของ…” เบลลาทริกเอ่ยขัดจอมมารด้วยเสียงสูงด้วยท่าทีรังเกียจ
“ร้านขายของหลอกเด็ก …ปัญญาอ่อน!!” และทำท่ากระหายอยากจะฆ่าเขาก่อนจะปีนโต๊ะขึ้นมาหาเฟร็ด แต่ก็ต้องสะดุ้งหดตัวกลับไปที่เดิมเมื่อเจอกับสายตาของจอมมารที่ตวัดสายตามาที่เธอ
“พ่อของเขาคือตัวป่วนในภาคี ที่พวกเรารู้จักกันดี”
โวลเดอร์มอร์พูดขณะกำลังลุกขึ้น เดินมาข้างโต๊ะด้านหลังของลูเซียสซึ่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับใบหน้าอันสะบักสะบอมของเฟร็ด...!
โวลเดอร์มอร์พูดขณะกำลังลุกขึ้น เดินมาข้างโต๊ะด้านหลังของลูเซียสซึ่งอยู่ในตำแหน่งเดียวกับใบหน้าอันสะบักสะบอมของเฟร็ด...!
เขาพยายามจะลุกขึ้น
“ครูซิโอ!!!”
จอมมารเสกคำสาปกรีดแทงใส่เขาทันที เฟร็ดดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดท่ามกลางเสียงหัวเราะของเหล่าผู้เสพความตาย …ยกเว้นเพียงสเนปที่นั่งมองอดีตศิษย์ของตนถูกทรมานอย่างเงียบๆ จอมมารหยุดการทรมานลงก่อนที่เฟร็ดจะหมดสติไป
“พ่อหนุ่ม วันนั้นที่ตรอกนอทเทิร์น พวกเราเห็นแกอยู่ที่นั่น ในวันที่เรากำลังตามหาตัวนักโทษ..ของฉัน”
เฟร็ดหายใจรวยริน ก่อนจะนึกไปถึงวันที่เขาไปหาซื้อของทำสิ่งประดิษฐ์ เขาเจอเข้ากับหญิงชรา และเฟร็ดก็ถูกดึงออกมาจากความคิดด้วยเสียงเหี้ยมเกรียมของจอมมาร
“แกไปทำอะไรที่นั่นกันล่ะ หืม?” เฟร็ดหน้าซีดเผือดลงทันทีเมื่อนึกถึงของที่หญิงชรามอบให้ตน ‘จอมมารต้องการมัน มันมีค่าสำหรับเขา …เขาต้องไม่ได้มันไป’ เฟร็ดกำลังจะอ้าปากปฏิเสธแต่เร็วเท่าความคิด
“เลจิลิเมนส์!!”
โวลเดอมอร์เสกคาถาพินิจใจ ใส่เฟร็ดเพื่อล้วงเอาความลับที่เขาต้องการออกมาทันที เฟร็ดพยายามปิดกั้นความคิดตัวเองเต็มที่แม้ร่างกายของเขาจะอ่อนแรงเหลือเกิน แต่ยังพอมีสติ
เฟร็ดรู้สึกตุงๆ ที่บริเวณหน้าอกจึงล้วงมือเขาไปเขาพบกับแหวนวงนั้นมันคือกุญแจนำทาง!! เขาหลับตาลงสิ่งสุดท้ายที่เขาคิดก่อนสติจะหลุดอีกครั้ง กับเสียงที่เปล่งออมมาอย่างแผ่วเบา
“เฮอร์ไมโอนี่…”
..........................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น