EP.17
ฮันนีมูน
ณ บ้านโพรงกระต่าย
วันนี้ที่บ้านโพรงกระต่ายมีงานเลี้ยงอาหารค่ำเล็กๆ เพื่อฉลองวันหยุดร่วมกันในครอบครัว ทุกคนต่างอยู่กันพร้อมหน้าบรรยากาศมีแต่ความอบอุ่น กับการพูดคุยถามไถ่กันถึงเรื่องราวสำคัญในชีวิต
โดยมีสองแฝดวีสลี่ย์ที่คอยก่อกวนทุกคนจนงานเลี้ยงนี้เกือบพัง มีเฮอร์ไมโอนี่ และแองเจลิน่าคอยปรามอย่างใกล้ชิดเพราะกลัวว่างานจะล่มซะก่อน
แฮร์รี่และจินนี่ช่วงนี้ก็ตัวติดกันเหลือเกินจน ทุกคนสังเกตได้ อาร์เธอจึงถามมอลลี่ด้วยความสงสัยถึงสีหน้า และอาการแปลกๆ ของลูกสาวตน แต่ยังไม่ทันจะได้ยินคำตอบจากภรรยาเสียงทุ้มของชายผมดำก็ดังขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร
“ทุกคนครับ ผมกับจินนี่กำลังจะมีลูกด้วยกันครับ!” ทุกคนบนโต๊ะต่างมีท่าทีอึ้งกับข่าวดีนี้ ก่อนจะแสดงความดีใจของชายผู้สยบจอมมาร และบรรณาธิการหนังสือควิชดิชที่กำลังจะกลายเป็นคุณพ่อ-คุณแม่มือใหม่ในเร็ววันนี้!
เว้นเพียงแต่หญิงสาวผมสีน้ำตาลที่เพียงยิ้มยินดีให้กับเพื่อนรักเพียงนิดเดียวก่อนจะเปลี่ยนเป็นแววตาเศร้าหมองลง จนชายหนุ่มคนรักของเธอสัมผัสถึงความรู้สึกของเธอได้ ก่อนจะเอื้อมมือมากุมมือร่างบางเป็นเชิงปลอบโยนเฮอร์ไมโอนี่ถึงเรื่องที่ทั้งเขา และเธอต่างต้องสูญเสียลูกอันเป็นที่รักไปโดยที่พวกเขายังไม่มีโอกาสได้เห็นใบหน้าใสซื่อนั้นเลย…
“ฉันไม่เป็นไร…” ร่างบางส่งยิ้มอ่อนๆ ไปให้เขาเพื่อยืนยันถึงสิ่งที่เธอพูด ว่าไม่ได้โกหกเขา
“ให้ตายเถอะ มีคุณลุงอีกคนที่ไม่ได้มาฟังข่าวดีในวันนี้!” จอร์จเอ่ยถึงรอนที่จู่ๆ ก็ย้ายไปทำงานในกระทรวงฯ ที่ต่างประเทศ อย่างกะทันหันโดยไม่บอกพวกเพื่อนคนอื่นๆ ล่วงหน้าเลยแม้แต่คนเดียว และก็ไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้เลย ที่รู้เรื่องของรอนจริงๆ ก็มีเพียงพ่อแม่ของเขาเท่านั้น
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกผิดในใจขึ้นมาที่จู่ๆ รอนก็ย้ายไปทำงานที่อื่น ทั้งที่พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันมากๆ ไม่เคยต้องอยู่ห่างไกลกัน หรือขาดการติดต่อไปเฉยๆ แบบนี้เลย นั่นเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่รอนผิดหวังจากเธอแล้วหนีไปรักษาแผลใจอย่างแน่นอนในความคิดของทุกๆ คน
ทุกคนช่วยกันเก็บโต๊ะอาหารหลังจากงานเลี้ยงเลิก ก่อนที่เฟร็ดและเฮอร์ไมโอนี่จะขอตัวกลับคอนโดเพื่อนไปพักผ่อน และเตรียมตัวสำหรับเดินทางไปฮันนีมูน!
07.23 น.
“ให้ตายสิ! ฉันหาพาสปอร์ตไม่เจอ มันอยู่ที่เธอรึป่าว?”
“ฉันเอามาแล้ว!”
“โอเค งั้นเรารีบไปกันเถอะ …ฉันทำเราสายมากแล้ว!” ชายร่างสูงผมแดงคว้าแขนภรรยาสาว ก่อนจะใช้มืออีกข้างลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกจากคอนโด และหายตัวไปยังสนามบินทันที
ที่มุมมืดปลอดคนในสนามบิน มีร่างของชายหญิงกำลังออกวิ่งไปยังช่องผู้โดยสารขาเข้าอย่างเร่งรีบ เมื่อมาถึงที่นั่งของตนเอง เฟร็ดก็บ่นเป็นหมีกินผึ้งตลอดจนเฮอร์ไมโอนี่ที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างบนเครื่อง มองสามีตนเองด้วยสายตาอ่อนใจ
“ถ้าพวกเราหายตัวด้วยกุญแจนำทาง ป่านนี้เราไปนอนตีพุงที่อิตาลีแล้ว!”
“เฟร็ด ฉันเป็นผู้ที่เกิดจากมักเกิ้ล ฉันก็อยากให้นายได้รู้จักวีถีชีวิตของฉันบ้าง…”
“…?”
“..ขอโทษที่ทำให้นายลำบาก” หญิงสาวผมสีน้ำตาลปล่อยยาวสยายเต็มแผ่นหลัง ละลายตาจากชายร่างสูง พลางหันหน้าออกไปมองวิวภายนอกหน้าต่างด้วยสายตาเหม่อลอย สร้างความรู้สึกผิดให้กับเฟร็ดอย่างมากที่เขามองข้ามเจตนาของเฮอร์ไมโอนี่ ที่อยากให้เขาได้รู้จักวิถีชีวิต และการเดินทางในแบบของเธอ
เฟร็ดเอื้อมมือมากุมมือภรรยาสาวก่อนจะยกมันขึ้นมาจุมพิตอย่างแผ่วเบา เรียกความสนใจร่างบางริมหน้าต่างให้หันมามองด้วยใบหน้าตื่นตกใจกับท่าทีของคนรัก
“ขอโทษนะเฮอร์ไมโอนี่ ฉันมันก็ปากเสียแบบนี้แหละ…อย่าโกรธกันเลยนะ”
“…?”
“แค่ไม่อยากให้เธอใช้เวลาไปกับการเดินทางนานๆ… ฉันอยากใช้เวลาอยู่กับเฮให้นานขึ้น แทนที่จะไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่าไปกับการเดินทาง…”
“…ฉัน”
“และฉันก็เป็นห่วงเธอ …เลยพูดแบบนั้นออกไป อภัยให้ฉันเถอะนะคนดี…” ร่างบางจ้องมองเข้าไปในแววตารู้สึกผิดของชายคนรักอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโน้มคอเขามาจุมพิตอย่างเนิ่นนาน ราวกับเป็นการอภัยให้กับชายหนุ่ม เฟร็ดจูบตอบเธออย่างหนักแน่นราวกับให้คำมั่นว่า …ต่อไปนี้เขาจะเลิกพูดแบบไม่ยั้งคิด และไม่ทำให้ร่างบางในอ้อมกอดเขาต้องเสียใจอีกตลอดไป…
พวกเขาทั้งคู่เมื่อลงจากเครื่องบินก็เดินทางไปยังที่พักชื่อดังของอิตาลี เพื่อเก็บข้าวของที่ห้องสูท บนชั้นที่ 54 ชั้นเกือบบนสุดของโรงแรม ก่อนที่ทั้งสองจะออกจากโรงแรมเพื่อไปชมวิวทิวทัศน์ของกรุงโรม พวกเขาไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญชื่อดังต่างๆ ของประเทศอิตาลี เช่น ‘แพนธีออน’ วิหารโบราณ ‘จัตุรัสนาโวนา’ กลางเมืองใหญ่ที่มีลานรูปปั้น และน้ำพุขนาดใหญ่สร้างความสวยงาม และความเพลิดเพลินให้กับหญิงสาวเป็นอย่างมาก จนเธอเผลอนั่งลงที่ลานหน้าน้ำพุพร้อมกับหนังสือเล่มใหญ่ในมือ แต่ยังไม่ทันจะเปิดมันออกเฟร็ดก็ดึงตัวขึ้นและ เดินไปหาอะไรทานที่ ‘ตราสเตเวเร’ จนอิ่มหนำ
เฮอร์ไมโอนี่นั่งรอเฟร็ดที่กำลังไปซื้อน้ำ ที่เก้าอี้ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งใจกลางเมือง แต่ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่เห็นวี่แววของชายผมแดงแม้แต่น้อย จนร่างบางอดรนทนรอไมไหวจึงคว้ากระเป๋าสะพาย ก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้ตรงไปในย่านการค้าใกล้ๆ กับสวนสาธารณะทันที
“….เฟร็ด!”
ภาพตรงหน้าเกือบทำให้ร่างของเฮอร์ไมโอนี่ทรุด แต่ยังดีที่บริเวณนั้นมีโต๊ะทานกาแฟให้พอที่จะพยุงตัวไว้ได้โดยไม่ล้มไปเสียก่อน
หญิงสาวผมบ็อบสั้นในชุดลำลองดูดี กำลังโอบคอ ทำท่าจะโน้มคอชายผมแดงลงมาจูบอย่างสนิทสนมรักใคร่ และที่ทำให้ร่างบางถึงกับกุมหน้าอกด้วยความเจ็บแปล๊บ ก็คือท่าทีของชายหนุ่มผมแดงที่ไม่พยายามจะผลักไสหรือรังเกียจแม้แต่น้อย ขาเรียวของเฮอร์ไมโอนี่รีบก้าวออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วมุ่งหน้ากลับไปยังที่พักของตนทันที พร้อมกับดวงตาคู่สวยที่มีน้ำตาไหลนองแก้มเนียนตลอดทาง
FRED :
ขณะที่เฟร็ดกำลังต่อคิวซื้อน้ำ อยู่ที่ซุ้มไม่ไกลจากที่เฮอร์ไมโอนี่นั่งพัก
“เอ่อ …ผมเอา มอคค่า กับ น้ำผลไม้รวมครับ”
ชายร่างท้วมยื่นแก้วที่บรรจุน้ำทั้งสองใบ ให้กับเฟร็ดก่อนจะรับเงินมาและกล่าวของคุณเขา เฟร็ดหมุนตัวออกมาจากซุ้มขายน้ำเพื่อไปหาเฮอร์ไมโอนี่
พลัก!!!!
ร่างของเขาชนเข้ากับ ร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งจนแก้วน้ำในมือหกกระจาย และร่างของผู้หญิงคนนั้นก็ล้มลงไปนั่งกับพื้นอย่างหมดสภาพ เฟร็ดจึงพยุงร่างของหญิงผู้นั้นขึ้นมาจากพื้น จนเธอเซเข้ากับอกกว้างของเขาอย่างแรง กลิ่นเหล้าฉุนกึกจากตัวของหญิงสาว ลอยเข้าจมูกจนเขาต้องย่นจมูกอย่างแรง เฟร็ดยกนาฬิกาขึ้นดูพบว่านี่มันหกโมงกว่าแล้ว ไหนจะต้องไปซื้อน้ำมาใหม่อีก คนรักของเขาคงจะรอแย่
มือหนาประคองหน้าหญิงสาวขึ้นก่อนจะตีเบาๆ ที่แก้มของเธอ จนหญิงสาวรู้สึกตัว เธอกระพริบตาปริบๆ มองชายตรงหน้าด้วยใบหน้าแดงก่ำด้วยฤทธิ์สุรา
“นี่ๆ เธอเป็นอะไรมั้ย?”
“เฟร็ด …เฟร็ดนั่นเธอใช่มั้ย?” หญิงสาวพยายามยืนด้วยเท้าของตัวเองก่อนจะจ้องหน้าชายผมแดงตรงหน้าด้วยแววตาเป็นประกาย ราวกับความมึนเมาเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว เฟร็ดพยักหน้าช้าๆ พลางครุ่นคิดถึงใบหน้าของหญิงตรงหน้า ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอคือ โอลิเวีย หนึ่งในสาวแซ่บแห่งบ้าน เรเวนคลอ ที่เขาเคยควง และมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วยเมื่อตอนปี 6 แต่หลังจากที่เขาออกจากฮอกวอตส์ก็ไม่ได้ติดต่อเธออีกเลยตั้งแต่วันนั้น
“…อุ๊บ!”
จู่ๆ โอลิเวียก็โน้มคอเฟร็ดลงมาจูบอย่างดูดดื่ม โดยที่เขาไม่ตั้งตัว ก่อนที่ร่างบางจะถูกผลักออกจากตัวของร่างสูง ด้วยมือของเฟร็ดเองที่มองหญิงสาวด้วยความตกใจกับการกระทำของเธอ ในที่สาธารณะเช่นนี้
“ฉันดีใจที่ได้พบเธอจริงๆ เฟร็ด ตอนนี้ฉันกำลังแย่ เธอต้องช่วยฉันนะ!!”
“โอลิเวียคือฉัน…” เฟร็ดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระอักกระอ่วนใจพลางยกนาฬิกาขึ้นมาดู เมื่อนึกไปถึงคนรักที่กำลังนั่งรอเขาอยู่คนเดียวในสวนสาธารณะที่เริ่มโรยตัวด้วยความมืด และความเย็น
“ฉันกำลังจะถูกฆ่านะ!!”
โอลิเวียมองชายตรงหน้าด้วยแววตาหวาดกลัว เฟร็ดตกใจกับสิ่งที่หญิงสาวพูด เขาคว้าแขนเธอเดินไปยังที่ๆ เฮอร์ไมโอนี่เคยนั่งอยู่ แต่ตอนนี้เหลือเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น
เฟร็ดเดินไปเดินมาราวกับกำลังหาอะไรสักอย่าง ด้วยท่าทางงุ่นง่าน ราวกับหนูติดจั่น จนหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ไม่ไกลถามขึ้นด้วยความสงสัย
“นายทำอะไรหายงั้นหรอ? ฉันเห็นนายเดินไปเดินมาหลายนาทีแล้วนะ!”
เฟร็ดสบตากับหญิงสาวก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความร้อนรนและสั่นเครือ และความหมายของคำพูดนั้นทำให้หญิงสาวผมสั้นถึงกับรู้สึกราวกับทั้งร่างกำลังจะแตกสลายลงตรงนั้น
“ฉันกำลังหา …ภรรยาของฉัน!!”
............................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น