HOME........... แนะนำนิยาย.......... Gallery............VIDEO........... ติดต่อเรา

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

EP.5 Remember ความรัก และความทรงจำ เฟร็ด-เฮอร์ไมโอนี่-เดรโก



EP.5

บ้านหลังใหม่


          เฟร็ดผงะ  และเผลอปล่อยช้อนหลุดมือลงชามซุปอย่างตกใจ   ท่ามกลางสายตาหวาดระแวงของหญิงคนรักตรงหน้า    เฟร็ดถอนหายใจหนักๆ  อย่างข่มอารมณ์     ก่อนจะวางถ้วยซุปลงบนโต๊ะข้างหัวเตียง
          เขาหันมาเผชิญหน้ากับเธอโดยตรง   และกุมมือเธอไว้  ในตอนแรก เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีขัดขืน   แต่พอเห็นแววตาที่แสดงความเจ็บปวดออกมาอย่างที่เธอเองก็ไม่รู้สาเหตุ    นั่นทำให้เธอยอมให้เขากุมมือเธอต่อไป
          มันเกิดอะไรขึ้น..?”
          “ฉัน   เอ่อ ..ก็ไม่รู้เหมือนกัน   ฉันจำอะไรไม่ได้เลย…”
          “….?”
          “…แม้แต่ตัวเอง”     เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าลงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสับสน   และเศร้าหมอง 
เฟร็ดลูบศีรษะเธออย่างแผ่วเบา   ร่างบางสะดุ้งก่อนจะเขยิบถอยหนี  เฟร็ดมองเธอด้วยแววตาเจ็บปวดอีกครั้ง   เขาพยายามเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเขาให้เธอพังอย่างใจเย็นรวมถึงเรื่องที่เขากับเธอเป็นคนรักกัน   และทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว   
โอ๊ย!!”
จู่ๆ  เฮอร์ไมโอนี่ก็กุมศีรษะ  และร้องครางออกมาด้วยความเจ็บปวด   เฟร็ดตกใจเมื่อคนรักส่งเสียงร้องออกมาก่อนจะสลบไป   
พยาบาลเข้ามากันเขาออกไปจากห้องทันที    เฟร็ดทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้หน้าห้องพักของเฮอร์ไมโอนี่  พร้อมด้วยแพทย์ประจำไข้อีก คนที่เขามาคุยกับเขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
คุณเป็นอะไรกับผู้ป่วยครับ?”
ผมเป็นสามีของเธอ
ผมมีเรื่องเสียใจอย่างมาก   ที่จะต้องบอกว่า  คุณเฮอร์ไมโอนี่ สมองของเธอได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก  และอยู่ในสภาวะความจำเสื่อม
เฟร็ดชาไปทั้งตัวราวกับมีเข็มนับพันทิ่มลงมาทั่วร่างเขา   เมื่อได้รับรู้ความจริงที่แสนเจ็บปวดยิ่งนัก
เขาต้องพาเฮอร์ไมโอนี่ ไปรักษาตัวต่อที่เซนต์มังโก   และหวังว่าสถานบำบัดในโลกเวทมนต์จะช่วยเธอได้   แต่ตอนนี้เธอมีท่าทีหวาดกลัวต่อเขาไปแล้ว    นั่นคงจะเป็นการยากที่จะพาเธอไปไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม    เฟร็ดตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปหาเนวิลที่บ้านของเขาทันที

ก๊อกๆๆๆ
เพียงไม่นานประตูบ้านก็เปิดออก  พร้อมกับร่างบางของสาวผมบลอนด์คุ้นตา   ออกมาต้อนรับเขาด้วยท่าทีร่าเริงกับดวงตาลอยๆ  ของเธอ
เอ่อ   สวัสดีลูน่า!!”
ลมอะไรพัดเธอมาที่นี่  เอ่อเฟร็ดสินะ..”   ลูน่าเดินนำเฟร็ดเข้ามาในบ้าน  ที่แสนอบอุ่นของพวกเขา   ภายในบ้านตกแต่งอย่างเรียบง่ายและสวยงามมีเครื่องราง   ของแทบทุกประเทศถูกตกแต่ง   และแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบ   และงดงามลงตัว
ลูน่าให้เขานั่งรอที่โซฟา   ก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องครัว   และกลับมาพร้อมกับถาดชา  ที่มีชาแบบตะวันออกส่งกลิ่นหอมยวนใจ    และคุกกี้อีกหนึ่งจาน   เธอวางมันลงบนโต๊ะตรงหน้าเขา
ขอบใจ   ลูน่าเธอสบายดีมั้ย?”
แน่นอน!   ฉันสบายดี แต่เนวิลไม่ค่อยโอเค  เมื่อสองสามวันก่อนเขาถูกนักต้อนลอบทำร้าย
จริงหรอ  ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง!”
พึ่งออกจากเซนต์มังโก  เมื่อเช้า   เขาไปเจอพวกนั้นตอนที่เราทั้งคู่ไปหาสมุนไพรที่เชิงเขาทางตอนเหนือ
เสียใจด้วยนะ   ฉันอยากพบเขาพาฉันไปพบเขาหน่อยได้มั้ย?”    ลูน่าพาเฟร็ดเข้ามาในห้องนอนของพวกเขา    ที่เก้าอี้นวมข้างหน้าต่างบานใหญ่    เนวิลกำลังนั่งอ่านตำราว่าด้วยสมุนไพรอยู่อย่างตั้งใจ
ลูน่าเอื้อมมือสัมผัสไหล่เนวิล   และจุมพิตที่แก้มเรียวอย่างแผ่วเบา    เนวิลละสายตาออกจากหนังสือในมือ    เขามองใบหน้าของหญิงคนรักและยิ้มให้เธอ   ก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่บุคคลที่  ที่กำลังยืนมองพวกเขาอยู่ไม่ห่าง
เฟร็ด   หรือจอร์จนะ?”
ฉันเฟร็ด  …นายเป็นยังไงบ้าง?”
ดีขึ้นมากแล้ว   ฉันได้รับนกฮูกนายมีอะไรให้ฉันช่วยหรอ?”
เฟร็ดเล่าเรื่องที่เฮอร์ไมโอนี่ประสบอุบัติเหตุจนต้องสูญเสียความจำ   เขามาเพื่อปรึกษากับเนวิล   เรื่องสมุนไพรที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูความทรงจำ
เสียใจด้วยนะ   แต่ทางเรายังไม่มีการคิดค้นสมุนไพรรักษาอาการนี้หรอก   ถึงมีก็รักษาได้ผลเฉพาะกับแม่มดที่ถูกลบความจำด้วยคาถาเท่านั้น
ฉันจะทำยังไงดี… เธอจำฉันไม่ได้เลย!”
มีทางเดียว…”   ลูน่าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเนิบๆ   ราวกับกำลังพูดอยู่กับตัวเอง    เฟร็ดสบตากับลูน่าอย่างมีความหวัง
เธอต้องพาเฮอร์ไมโอนี่กลับบ้าน   ชวนเธอไปในที่ๆ  มีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน  ทางการแพทย์บอกไว้”  
เฟร็ดพยักหน้าอย่างรับรู้ถึงคำพูดของลูน่า   เขาขอตัวกลับ  ทั้งสองคนออกมาส่งเฟร็ดที่หน้าบ้าน   ก่อนจะไปลูน่ายื่นขวดแก้วขนาดเล็ก  ที่บรรจุของเหลวสีใสไว้จนเต็ม   เฟร็ดรับมันมาถือไว้  เนวิลไขข้อสงสัยให้เขาเมื่อเห็นสีหน้างงงวยของเฟร็ด
น้ำตาเธสตรอล   มันจะช่วยให้ความทรงจำกลับคืนมาเร็วขึ้น
เฟร็ดเอ่ยขอบคุณทั้งสองก่อนจะหายตัวไป

หลังจากวันนั้นเฟร็ด  และเดรโกก็ผลัดกันไปเยี่ยมเฮอร์ไมโอนี่ทุกวัน  เพียงแต่ไปคนละเวลา 
เดรโกไปตอนสายๆ  พร้อมกับดอกไม้หลากสีช่อโต   ส่วนเฟร็ดจะมาหาเธอตอนหัวค่ำ  หลังจากปิดร้าน   และเขาจะนอนเฝ้าเธอทุกคืนในตอนเช้าก็จะรีบออกไปดูร้าน     เฮอร์ไมโอนี่จึงมีโอกาสได้เห็น เดรโกมากกว่า  
เธอเริ่มที่จะมีความเชื่อใจเขามากขึ้น  เมื่อดูจากการกระทำถึงแม้จะเย็นชา   แต่ก็ใส่ใจเธอตลอดระยะเวลาที่เธอนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล  เธอเริ่มวางใจ   และเชื่อว่าเขาคือสามีของเธอจริงๆ

บาดแผลทางร่างกายโดยรวมแล้วถือว่าดีขึ้นมาก   เดรโกจึงทำเรื่องขอย้ายเธอไปพักรักษาตัวต่อที่บ้าน 
เดิมทีเขาไม่ชอบที่ๆ  พวกมักเกิ้ลอยู่กันเยอะๆ  แบบนี้อยู่แล้วแต่เขาก็ไม่สามารถพาเธอไปเซนต์มังโกได้  เนื่องจากเธอทำงานเป็นนักบำบัดอยู่ที่นั่น   เขาจึงไม่สามารถที่จะหลอกเธอเรื่องข้อมูลต่างๆ  หรือหลอกเธอว่าเขาเป็นสามีเธอ
ฉันมารับกลับบ้าน…”   เฮอร์ไมโอนี่ยันตัวขึ้นจากเตียงอย่างช้าๆ  เธอมองท่าทางของสามีตัวเองที่ยืนมองมาที่เธออย่างนิ่งเฉย    ไม่มีท่าทีจะเข้ามาพยุงเธอ   เหมือนกับที่ชายร่างสูงผมแดงคนนั้นปฏิบัติต่อเธอแต่อย่างใด
บ้านหรอคะ?”
รีบแต่งตัวเถอะ  เดี๋ยวจะสายไปมากกว่านี้”   เดรโกยังคงสงวนท่าทีเย็นชาไว้เหมือนเดิม  อันที่จริงเขาจำเป็นต้องรีบ    เพราะสามีตัวจริงของเธอกำลังจะมาหาในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ทั้งสองเดินออกมาจากโรงพยาบาล   ด้านหน้ามีรถคันหรูจอดรอพวกเขาอยู่   เฮอร์ไมโอนี่ก้าวขึ้นไปนั่งด้านหลังข้างๆ เดรโก  ประตูรถถูกปิดลง  และรถก็เคลื่อนตัวออกไปอย่างรวดเร็ว   ท่ามกลางความสงสัยต่างๆ และข้อขัดแย้งมากมายภายในใจของหญิงสาวนัยตาสีน้ำตาล

เมื่อมาถึงเอลฟ์ประจำคฤหาสน์ ออกมาต้อนรับพวกเขาด้วยท่าทีสงบเสงี่ยม   เดรโกก้าวเท้ายาวๆ นำเข้าไปภายในคฤหาสน์หรู  ที่เธอไม่คุ้นเคยภายในตกแต่งด้วยพรม  และเครื่องเรือนสีทึม  หากแต่ดูเก่าแก่และแสนแพง
          เดรโกสั่งให้เอลฟ์พาเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นไปดูห้องพัก   ส่วนเขาจะกลับไปสะสางงานต่อให้เสร็จ   โดยกำชับกับเอลฟ์ทุกตัวว่าห้ามพูดหรือเอ่ยถึง แอสโทเรีย  และความจริงต่างๆ  ที่เกี่ยวกับเขาทุกประการ   ทางที่ดีห้ามพูดอะไรเลย  นอกจากรับคำสั่งจากเขา   และทำตามห้ามทำอะไรที่นอกเหนือจากนี้เด็ดขาด!!
ฉันอยู่ที่นี่จริงๆ  หรอ?”   เฮอร์ไมโอนี่นั่งลงบนเตียงขนาดใหญ่  ที่ตอนนี้ทั้งห้องมีเพียงเธอผู้เดียว   ห้องที่ใหญ่โตหรูหรา  หากแต่เย็นชา  และหนาวเหน็บ

ก๊อกๆๆ
เข้ามาค่ะ”   เสียงเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับร่างของเด็กชายที่ยืนเก้ๆ  กังๆ
เอ่อ  มานานรึยัง?”
ได้สักพักแล้วจ่ะ   เข้ามาก่อนสิ..”  สกอร์เปียส เดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งลงบนเตียงข้างๆ เธอ  เด็กน้อยก้มหน้าลงมองมือทั้งสองข้างของตัวเองที่ประสานกันอยู่อย่างใช้ความคิด
เขาไม่อยากให้พ่อทำผิดต่อแม่   และไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้ต้องเจอกับเรื่องหลอกลวงตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของเธอ  ร่างเล็กถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง  ใบหน้าคร่ำเคร่งและท่าทางดูช่างเกินวัย  ปี ของเขาเหลือเกินในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่
ผมมีเรื่องต้องบอก…”
“…เอ่อ  ลูกมีอะไรจะบอกแม่งั้นหรอ?”   แม้น้ำเสียงจะฟังดูขัดเขินอยู่บ้างที่จะยอมรับว่าตัวเองมีลูก   แต่แววตาที่มองมายังเขาช่างอ่อนโยน  และจริงใจหาได้เสแสร้งไม่    มือบางที่ประคองกอดที่ไหล่เขาอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ที่การสนทนาเริ่มขึ้นจนบัดนี้   ช่างทำให้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจของเด็กน้อยอย่างเขาเหลือเกิน   เด็กน้อยที่ไม่เคยได้รับความรักจากบุคคลในบ้าน  หรือแม้แต่มารดาของเขาเองก็ตาม….

สกอร์เปียส  ผู้ที่พึ่งกำพร้าแม่   แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่ามีแม่มาตั้งแต่ต้น      แม่ผู้ซึ่งทะเยอทะยาน  บ้างานสังคม  คลั่งเลือดบริสุทธิ์  ราวกับถอดแบบมาจากปู่ลูเซียสไม่มีผิด!!  
เขาไม่เคยได้รู้สึกถึงความรักแบบนี้มาก่อนจนได้มาพบกับเฮอร์ไมโอนี่  เขาล้มเลิกความตั้งใจที่จะบอกความจริงกับเธอ     และทั้งสองก็เริ่มสนิทกันมากขึ้นจนเขา   สามารถเรียกเธอว่าแม่ได้อย่างไม่รู้สึกเขินอาย    เดรโกแอบมองพวกเขาทั้งสองอยู่เป็นประจำ   เขารู้สึกพอใจมากที่ลูกชายไม่ขัดขืนต่อความตั้งใจของเขา    และดูท่าว่าลูกจะชอบเฮอร์ไมโอนี่มากเสียด้วย  เขาก็เหมือนกัน  
เขาเป็นพวกแสดงความรักไม่เป็น  หลายครั้งที่เฮอร์ไมโอนี่มองเขาด้วยสายตาสงสัยระคนใคร่ครวญ  กับพฤติกรรมของคนที่อ้างตนว่าเป็นสามีแต่ไม่เคยใส่ใจเธออย่างที่คนรักพึงกระทำเลย   
แต่เฮอร์ไมโอนี่ก็พยายามเข้าหาเขาก่อน   เธอช่างพูด  และเอาใจใส่เขาจนในบางครั้งมันดูจะผิดจุดประสงค์ที่เขาโกหกว่าเป็นสามีเธอ  เพื่อหวังลบล้างความผิดที่ขับรถชนเธอ   จนทำให้เธอความจำเสื่อมแบบนี้    และกลายเป็นว่าไม่ใช่เขาที่จะทำให้เธอรัก   แต่กลายเป็นว่าทุกสิ่งที่เธอทำมันเป็นตัวกระตุ้นความรู้สึกที่ด้านชาของเขาให้หวนนึกถึงความทรงจำที่แสนคิดถึงในอดีต….  ที่เขามีต่อเธอ
         
          ทางเฟร็ดเมื่อกลับมาที่โรงพยาบาล   เขาก็พบเพียงความว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ร่างของคนรักบนเตียงหรือ ที่ใดภายในห้องนี้เลย    เขาออกจะห้องรีบไปติดต่อพยาบาลหน้าเคาเตอร์
          ขอโทษนะครับ  ผู้ป่วยห้อง 407 เธอไปไหนแล้ว?”
          “สามีเธอมาติดต่อ  ขอรับตัวเธอไปเมื่อ 10 โมงกว่าค่ะ”  
          “อะไรนะ   สามี!  ผมนี่แหละสามีของเธอ!!”
ขออภัยด้วยค่ะ  ทางเราจะตรวจสอบอีกที”   พยาบาลหน้าถอดสีที่คนไข้ในความดูแลของพวกเธอ  ถูกพาตัวไปโดยบุคคลที่ไม่ใช่ญาติของเธอนั่นเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่หลวงนัก   สำหรับโรงพยาบาลมีชื่อเสียงแห่งนี้
เฟร็ดก้มลงมองนาฬิกา  ตอนนี้เวลาทุ่มกว่าแล้วเขาหงุดหงิดมาก  ที่จู่ๆ ก็มีใครไม่รู้  มาอ้างว่าเป็นสามีเธอ  และพาไปที่ไหนก็ไม่มีใครรู้
          “ผมจะฟ้องร้องโรงพยาบาลของพวกคุณ  เตรียมไปเจอกันที่ศาลได้เลย!!”
          เฟร็ดเดินหันหลังออกมา  อย่างหัวเสียท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ อย่างคิดไม่ตกของเหล่าพยาบาล  เมื่อญาติของผู้ป่วยรายนี้ประกาศกร้าวจะฟ้องร้องที่ทำงานของพวกเธอ…!  
         
          ณ   กริมโมลด์เพลซ 12
ขณะที่คนในภาคีกำลังใช้เวลาร่วมกันในตอนค่ำ  เพื่อดื่มน้ำชาและพบปะพูดคุย   เสียงฝีเท้าหนักๆ  ย่ำเข้ามาพร้อมกับประตูห้องโถงที่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นชายร่างสูงผมแดง  หนึ่งในแฝดวีสลี่ย์
ไง   เรากำลังดื่มชาเธอสนใจมั้ย?”   ท็องส์เดินเข้ามาหาเขา  และพาเข้าไปในห้องที่มีสมาชิกคนอื่นๆ  อยู่ภายใน   เฟร็ดเดินเข้าไปหาคิงสลี่ย์   เขานั่งลงบนโซฟาข้างๆ  นายกกระทรวงฯ ด้วยใบหน้าเคร่งเครียด
คิงสลี่ย์ลดแก้วชาในมือลง  ก่อนจะหันมาทักทายเขาอย่างเป็นกันเอง
          “จอร์จ  หรือเฟร็ดนะ  เป็นยังไงบ้าง?”
          “ไม่ดีมากๆ เลย  เฮอร์ไมโอนี่ถูกคนอ้างตัวว่าเป็นผม  พาตัวไป
          “อะไรนะ!?   นี่มันเรื่องใหญ่มากๆ  เอาล่ะใจเย็นนะเราจะออกตามหาเธอให้พบอย่างแน่นอน
          “ผม  เสียใจผมดูแลเธอไม่ดีเท่าที่ควร   ผมเป็นสามีที่แย่!!”   เฟร็ดกุมศีรษะตัวเอง   และนึกถึงเรื่องคนรักด้วยใบหน้าที่เจ็บปวด
          “เธอเป็นสามีที่ดี   ฉันเฝ้ามองเธอกับเฮอร์ไมโอนี่มาตลอด  อย่ามัวแต่โทษตัวเองอีกเลย”  
เฟร็ดเงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าด้วยแววตาขอบคุณ    คิงสลี่ย์ตบบ่าเขาเบาๆ อย่างให้กำลังใจ  และเดินไปเรียกทุกคนในกริมโมลด์เพลซ  เพื่อปรึกษาหารือถึงการหาข้อมูล  และออกตามเฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าเคร่งเครียดขัดกับคำพูดให้กำลังใจเฟร็ด เมื่อสักครู่อย่างสิ้นเชิง

ตั้งแต่เฮอร์ไมโอนี่มาเข้าร่วมกับภาคีอย่างเต็มตัว  เธอก็ลบความทรงจำของพ่อแม่  เพื่อความปลอดภัยของพวกท่านเอง 
เฮอร์ไมโอนี่จึงอยู่ตัวคนเดียว    เธอกลายเป็นคนไร้ครอบครัวนับตั้งแต่วันนั้น   และเหตุการณ์ตอนเคลื่อนย้ายแฮร์รี่ไปยังบ้านโพรงกระต่ายคือตอนที่เขายังอายุไม่ครบเกณฑ์      คิงสลี่ย์ก็จับคู่กับเฮอร์ไมโอนี่   เขาคอยดูแลเธอมาตลอดหลายปีในฐานะพ่อทูนหัว




 ......................................................................................







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น