EP.27
พลิกผัน
เฟร็ดและเฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกมาจากป่าต้องห้าม และตรงเข้าไปในปราสาททันทีภาพที่พวกเขาเห็นคือ เหล่าผู้วิเศษกำลังห้ำหั่นกันเองอย่างบ้าคลั่ง และโดยรอบก็เต็มไปด้วยร่างไร้วิญญาณของเพื่อนๆ ทั้งคนที่เธอรู้จัก และไม่เคยแม้แต่จะคุยกัน แต่พวกเขาก็คือเพื่อน…ร่วมฮอกวอตส์เหมือนกัน!!!
ทั้งสองต่อสู้กับผู้เสพความตายแบบแทบลืมหายใจ เฮอร์ไมโอนี่พลาดท่าล้มตึงลงด้วยฤทธิ์คาถาสะกดนิ่ง เฟร็ดรีบคลายมนสะกดก่อนจะพาร่างบางมาหลบในห้องเก็บไม้กวาด เขาดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดก่อนจะจูบเธออย่างรวดเร็วและลึกซึ้งด้วยความระทึก เสียงลมหายใจของยมทูต และกลิ่นอายของความตายรินรดที่ใบหูพวกเขาใกล้เหลือเกิน เราอาจจะตายในอีกไม่ช้า ใช่…เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้กอดเธอแบบนี้อีกแล้ว เขารักเธอเหลือเกินและไม่มีอะไรที่เข้าต้องการไปมากกว่า ….การที่เห็นเธอปลอดภัย
“เธอต้องหนีไป!”
“อะไรนะ!? ไม่มีทาง!!”
“มันต้องมีสิ! …ฉันทนไม่ได้ถ้าจะเห็นเธอเป็นอะไรไป ให้ตายเถอะ!! …ฉันรักเธอ ทำตามที่ฉันบอกซักครั้งได้มั้ย!!!”
“แล้วนายคิดว่าฉันจะอยู่ได้หรอ ถ้าฉันหนีไปและ …ฉันรอด นายคิดว่าฉันจะทนอยู่ได้ถ้าไม่มีนายรึไงกัน!!!!” ร่างบางปล่อยโฮออกมา เฟร็ดดึงเธอเข้ามากอดด้วยความสงสาร เขารู้แล้ว
…เขาและเธอเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เราขาดกันและกันไม่ได้ เธอเตรียมใจมาอย่างดีแล้วสินะและ …ฉันก็เหมือนกัน!!
HARRY POTTER :
“ฮะ …ม่ายยยย!!!!!” เสียงกรีดร้องของโวลเดอร์มอร์ดังขึ้นเรียกความสนใจให้แฮร์รี่เงยหน้าขึ้นจากพื้นหินอันเย็นเฉียบทันที
ภาพที่เขาเห็นคือไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ในมือของโวลเดอมอร์ค่อยๆ หายไป เหลือเพียงความว่างเปล่า…
จอมมารมองมือที่ว่างเปล่าของตัวเอง ก่อนจะตวัดสายตาไปมองเด็กชายผู้รอดชีวิตอย่างตกตะลึง และเช่นเดียวกันกับทฤษฎีของหินชุบวิญญาณ
ของสิ่งเดียวกันเมื่อมาจากคนละช่วงเวลาจะกลายเป็น 2 ชิ้น และของทั้ง 2 ชิ้นก็คือวัตถุชิ้นเดียวกัน …จึงมิอาจอยู่ในที่เดียวกัน และไม่อาจจะอยู่ในเวลาเดียวกันได้…ของชิ้นหนึ่งต้องหายไป และกลับไปสู่ที่ของมัน…!!
“ทำ ได้ยังไง!!!” แฮร์รี่ยันตัวขึ้นจากพื้น ก่อนจะปัดฝุ่นตามเนื้อตัวออกและยืนอย่างมั่นคงด้วยเท้าทั้งสองข้าง
“โอ้ ฉันรู้สึกประทับใจกับมายากลของแกจังเลย …แฮร์รี่!!”
“หยุดได้แล้วทอม …มันจบแล้ว..”
“…แกไม่กล้าหรอก! แกไม่สามารถ ฆ่า…ฉันได้!!” โวลเดอมอร์พยายามเข้าไปในหัวของแฮร์รี่ แต่ตอนนี้เขาอ่อนแอลงเหลือเกิน แฮร์รี่กุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เขาจะรวบรวมกำลังทั้งหมดไปที่ไม้กายสิทธิ์ และยกมันขึ้น
“อะวาดา เคดาฟรา!!!” ลำแสงสีเขียวพุ่งตรงไปยังร่างของผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืด เพียงพริบตาความยิ่งใหญ่ที่สร้างมาหายวับไปเหลือเพียงตำนาน ของเจ้าแห่งศาสตร์มืดผู้เลื่องชื่อให้กล่าวถึงเท่านั้น…
ร่างของจอมมารกระตุกอย่างแรงเพราะฤทธิ์ของคาถา ก่อนที่ร่างไร้วิญญาณของโวลเดอมอร์จะแตกกระจายด้วยเคียวที่มองไม่เห็นของ ‘ยมทูต’ ร่างทั้งร่างของเขาแตกละเอียดราวกับเศษแก้วสีดำแวววาว ที่ถูกแรงระเบิดพลังมหาศาลจนมันแตกกระจายไปทุกทิศทาง เพื่อเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะร่วงลงสู่พื้นปราสาทฮอกวอตส์ราวกับเศษหินไร้ค่า….
FRED & HERMIONE
จู่ๆ ร่างสีดำทะมึนก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเฟร็ด และเฮอร์ไมโอนี่ ขณะที่พวกเขาเอาชนะผู้เสพความตายไปแล้วถึง 5 คน
ร่างในผ้าคลุมหัวโค้งให้พวกเขาอย่างอ่อนน้อม การปรากฏตัวของยมทูต แม้จะไม่มีใครอื่นนอกจากเฟร็ด และเฮอร์ไมโอนี่ที่เห็น แต่ก็ทำให้พวกนักเรียน และผู้เสพความตายรับรู้ถึงการมาของบางสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดยิ่งไปกว่าจอมมาร หรือเจ้าแห่งศาสตร์มืดคนใดก็ตาม
บรรยากาศเริ่มเย็นลงจนติดลบ ทั้งสองฝ่ายหยุดการต่อสู้ลงชั่วคราว พลางกวาดสายตาไปรอบๆ ตัวอย่างตื่นตระหนก
“ข้าทำตามประสงค์ของนายท่านแล้ว…” ก่อนจะสะบัดผ้าคลุมอย่างแรงจนเกิดลมพายุขนาดย่อมขึ้นทั่วบริเวณ และร่างของยมทูตก็หายไป ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ และการต่อสู้ก็ดำเนินขึ้นอีกครั้ง
ตรามารบนน่านฟ้าเหนือฮอกวอตส์ค่อยๆ จางหายไป เหล่าผู้เสพความตายเงยหน้ามองด้วยความฉงน แต่ไม่นานก็มีลูกไฟสีดำทะมึนพุ่งเข้ามาในตัวปราสาทพร้อมกับภาพเหตุการณ์ตายของโวลเดอมอร์ และเสียงกังวานก้องในหัวของผู้เสพความตายทุกคน
“จอม จอมมารตายแล้ว… นายท่านโวลเดอมอร์ …ตายแล้ว!!!”
ผู้เสพความตายมีแววตาที่ตื่นตระหนกอย่างชัดเจนก่อนจะรีบสลายตัวไปทันที บ้างก็ถูกฆ่าตาย หรือถูกภาคีจับกุม ไม่ก็ยอมมอบตัวแต่โดยดี…
แต่มีผู้หนึ่งที่ยังอยู่ที่เดิม เบลลาทริกยืนกุมศีรษะด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยแรงโทสะ และแววตาที่วาวโรจน์ด้วยแรงแค้น
“พวก …พวกแกทั้งหมดต้องตาย!!” เธอชี้ไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาก่อนจะร่ายคำสาปไปทั่วอย่างบ้าคลั่ง พวกนักเรียนและคนในภาคีต่างป้องกันตัวและวิ่งหาที่หลบคำสาปโทษผิดร้ายแรง กันจ้าละหวั่น เสียงกรีดร้องดังขึ้นตลอดการปะทะกันของภาคีและเบลลาทริก
อาเธอร์สู้เดี่ยวกับเธอแต่ด้วยความบ้าคลั่งทำให้เขาพลาดท่าโดนคาถาจนกระเด็นออกไปหลายเมตรก่อนจะกระแทกลงพื้นอย่างแรงมอลลี่ และลูกๆ วิ่งเข้ามาพยุงพ่อของพวกเขา
เป็นจังหวะที่เฟร็ดเข้ามาปกป้องพ่อของเขาแต่ด้วยความรวดเร็วและ การต่อสู้แบบไร้ทิศทางของเบลลาทริก เธอใช้คาถาย้อนกลับกับเฟร็ด ทำให้เฟร็ดล้มตึงลงเพราะโดนคาถาของตัวเองเข้า เบลลาทริกเดินเข้ามาใกล้ร่างสูงที่ลุกขึ้นยืนอย่างสะบักสะบอม ก่อนจะเอ่ยคาถาต้องห้ามด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ!!
“ไอ้พวกทรยศต่อเลือด!!!”
“..!!!!”
“อะวาดา เคดาฟรา!!!!” สำแสงสีเขียวพุ่งจากไม้กายสิทธิ์ตรงไปยังร่างของเฟร็ด คำสาปปะทะร่างของเขาอย่างรวดเร็วจนร่างสูงชะงัก แววตาของร่างสูงฉายแววความเจ็บปวดเพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ก่อนจะล้มตึงลงกับพื้นของปราสาทอย่างแรง!!
.........................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น