EP.11
ลอบหนี
หลังจากการประชุมในภาคีสิ้นสุดลง พวกแฮร์รี่ก็ถูกกักบริเวณ รวมไปถึงแผนการหา‘ฮอร์ครักซ์’ ก็เป็นอันถูกยกเลิก โดยที่แฮร์รี่ค้านหัวชนฝา แต่ด้วยความปลอดภัยของจินนี่ และรอน แฮร์รี่จึงหยุดพักแผนการโดยไม่มีข้อโต้แย้ง
ในคืนหนึ่งที่สมาชิกในภาคีต้องออกไปทำภารกิจใหม่ แฮร์รี่จึงใช้โอกาสนี้ในการหลบหนีออกจากกริมโมลด์เพลซ ขณะที่เขากำลังเดินลงบันไดไปอย่างเงียบเชียบ เสียงทักจากด้านหลังก็ดังขึ้น ทำให้เขาตกใจเผลอปล่อยสัมภาระในมือกระแทกพื้นเสียงดัง และยกมือขึ้นเหนือหัว ราวกับเด็กเล็กๆ ถูกจับได้ขณะทำผิด ก่อนจะค่อยๆ หันไปหาต้นเสียง
เพี๊ยะ!!!
เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของร่างสูงจนหน้าสะบัดไปตามแรง แฮร์รี่ ลูบแก้มตัวเองด้วยท่าทีตะลึงงัน ก่อนจะเห็นหน้าเจ้าของฝ่ามือพิฆาต …จินนี่นั่นเอง
“เธอจะทิ้งฉันไป ….อีกแล้ว!!” จินนี่หลุบตาลงต่ำพยายามซ่อนน้ำตาที่เริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตาคู่สวยนั้น
แฮร์รี่ดึงจินนี่เข้ามากอดพลางจูบเบาๆ ที่ผมของเธอ มือก็ลูบศีรษะปลอบโยนเธอ และพร่ำบอกขอโทษร่างบางจนเธอหยุดร้อง
ทั้งสองมองตากันและกันอย่างลึกซึ้ง แฮร์รี่หลุบตาลงและเอ่ยทำลายความเงียบลง
“ฉันจำเป็นต้องไปจินนี่ เขาแข็งแกร่งขึ้นทุกที และยิ่งเราปล่อยไว้นานเท่าไหร่เขาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!!” แฮร์รี่อธิบายเหตุผล
“ฉันจะไปด้วย…” แฮร์รี่กำลังจะเอ่ยห้ามแต่จินนี่ไม่เปิดโอกาสให้ เธอรีบโต้กลับทันที
“เธอไม่สามารถทำภารกิจนี้เพียงคนเดียวได้ นี่มันเป็นคืนของเขา …มันจะทำให้เขาได้เปรียบ” แฮร์รี่คิดตามไปอย่างเงียบๆ
“ถ้าเธอเกิดเป็นอะไรไปตอนนี้ แล้วใครจะกำจัดจอมมารและ…” แฮร์รี่มองตาจินนี่อย่างค้นหาคำตอบ
“…”
“…และใครจะดูแลฉันล่ะ” สิ้นคำพูดจินนี่ก็ถูกดึงเข้าไปในอ้อมกอดอีกครั้ง แก้มของเธอแนบกับอกกว้างของแฮร์รี่จนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นเร็วรัวด้วยความอุ่นใจ และก็เป็นเช่นนั้นหัวใจของแฮร์รี่เต้นแรงด้วยความสุขใจ เขาสูญเสียพ่อแม่ และพ่อทูนหัวไปแล้ว เขาจะไม่ยอมสูญเสียเธอไปอีก!! นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เขายังไม่เดินออกไปจากที่นี่ และเป็นครั้งแรกที่เขาอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป…
ขณะที่ชายหนุ่มผมแดง และหญิงชรากำลังคุยกันอย่างเคร่งเครียด หารู้ไม่ว่ามีบุคคลที่สามกำลังแอบฟังอย่างเงียบๆ อยู่อีกมุมห้อง ด้วยอาการตกใจ กับความลับอันเลวร้ายของ เฟร็ดที่เขาจะต้องเผชิญ
เธอไม่รู้ว่ายืนอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนแต่รู้ตัวอีกที หญิงชราก็มายืนตรงหน้าของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
“อ้าว …เด็กน้อย ตื่นแล้วหรอฉันกำลังขึ้นจะไปตามพอดี มาสิอาหารเช้าพร้อมแล้ว” หญิงชราส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ ก่อนจะเดินนำไปที่โต๊ะอาหาร โดยมีชายร่างสูงผมแดงนั่งจิบกาแฟพร้อมกับอ่านเดลี่พรอเฟ็ต จนหมด และเปลี่ยนไปอ่านนิตยสารเดอะควิปเบิล ในมืออย่างตั้งใจเกินเหตุ
เมื่อเห็นหญิงสาวเดินเข้ามาที่โต๊ะตรงข้ามกับเขา ก็ลดนิตยสารในมือลงและกล่าวทักทายอย่างร่าเริงตามแบบฉบับของเขา
“อรุณสวัสดิ์ …นักเรียนดีเด่นของฮอกวอตส์” เฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังเหม่อมองหน้าเขา ก็สะดุ้งก่อนจะทักทายเขากลับไปอย่างเก้ๆ กังๆ ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเขา เฟร็ดยิ้มบางๆ ให้และหันไปสนใจนิตยสารในมืออีกครั้ง เฮอร์ไมโอนี่นั่งทานอาหารเช้าไปเงียบๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“เอ่อ / คือ” ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
“เธอก่อน /นายก่อน” เฟร็ดยิ้มให้บางๆ เป็นเชิงบอกว่าให้เธอพูดก่อนสิ เฮอร์ไมโอนี่สูดหายใจเข้าลึกๆ นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่กันนะที่เธอได้มีโอกาสนั่งคุยกับเขาตามลำพังแบบนี้ รู้สึกตื่นเต้นจัง…!!
“แผลเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บอยู่รึเปล่า??” เฟร็ดก้มลงสำรวจตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเธอ และส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่า ‘ไม่เจ็บแล้ว’ เธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะถามถึงเรื่องที่บังเอิญไปได้ยินเมื่อเช้า ถึงแม้จะอยากรู้ขนาดไหนก็ตาม
“หลับไปตั้ง สามวัน เอ่อ… ฉันนึกว่านายจะตายไปแล้วซะอีก!!” เฮอร์ไมโอนี่พูดขึ้นด้วยความห่วงใย แต่พอรู้ตัวอีกทีก็เปลี่ยนคำพูดเป็นแดกดันชายตรงหน้าทันที เฟร็ดยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทันก่อนจะพูลอยๆ ว่า
“อืม …แช่งฉันหรอ นึกว่าเธอเป็นห่วงฉันซะอีกไอ้เราก็หลงดีใจ” หญิงสาวรีบหับ ขวับ มามองชายหนุ่มตรงหน้าทันทีก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธอย่างร้อนรน
“ฉันป่าวน….!!!” พูดยังไม่ทันจบเสียงของหญิงชราก็ดังขึ้นขัดตาทัพทันที
“เอาล่ะเด็กๆ วันนี้ฉันจะออกไปธุระที่ภาคี พวกเธออยู่ที่นี่ ห้ามออกไปเพ่นพ่านข้างนอกเด็ดขาด !! ….เข้าใจมั้ย?!” หญิงชราหยิบผ้าคลุมก่อจะเดินเข้าเตาผิงไปและไปสีเขียวก็ลุกท่วมร่างของเธอ
“หนูจะไปด้ว….” และเป็นอีกครั้งที่ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
“ตามไปสิ …ถ้าเธอต้องการ”
เฟร็ดเหลือบตามองร่างบาง และยกกาแฟขึ้นดื่ม เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างสงสัย ให้เธอไป… และเขาล่ะ?? ทำไมไม่ไปด้วยกัน และไอ้ท่าทางสบายใจ การกระทำแต่ละอย่างดูท่าจะไม่ได้มีความคิดที่จะไปภาคีแม้แต่น้อย
ร่างบางชักสีหน้าไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าเดินปึงปังไปที่หน้าเตาผิงทันที เธอหยิบผงฟลูขึ้นมาจากโถ บอกจุดหมายปลายทางและปามันลงกับพื้นอย่างแรง
เฟร็ดเหลือบตามองร่างบาง และยกกาแฟขึ้นดื่ม เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเขาอย่างสงสัย ให้เธอไป… และเขาล่ะ?? ทำไมไม่ไปด้วยกัน และไอ้ท่าทางสบายใจ การกระทำแต่ละอย่างดูท่าจะไม่ได้มีความคิดที่จะไปภาคีแม้แต่น้อย
ร่างบางชักสีหน้าไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าเดินปึงปังไปที่หน้าเตาผิงทันที เธอหยิบผงฟลูขึ้นมาจากโถ บอกจุดหมายปลายทางและปามันลงกับพื้นอย่างแรง
พรึ๊บ!!!
เฮอร์ไมโอนี่ลืมตาขึ้นมา มองออกไปนอกเตาผิงที่ยังมีควัน และขี้เถ้าลอยฟุ้งอยู่จนต้องกลั้นหายใจ
“ฮ่าๆ ๆ ๆ ๆ” เสียงหัวเราะร่วนดังแววมาแต่ไกล ‘หนอย …ฉันไม่อยู่ทั้งคนก็ดูมีความสุขกันดีนี่พวกนาย!!!’
เฮอร์ไมโอนี่ที่มีขี้เถ้าเกาะเต็มผมเดินออกมาจากเตาผิง และมองหาต้นตอของเสียงที่ไม่มีทีท่าจะหยุดหัวเราะซักที
“เฟร็ด!! ทำไมนายยังอยู่ที่นี่…!!!” เฮอร์ไมโอนี่อ้าปากค้างด้วยความตกใจก่อนจะเดินตรงไปหาเขาทันที
“อันที่จริง ถ้าพูดให้ถูกคือ …เธอยังอยู่ที่เดิม น่ะสาวน้อย!” เฮอร์ไมโอนี่เอามือตีหน้าผากตัวเองอย่างแค้นใจกับการกระทำที่น่าอับอายของตัวเอง เฟร็ดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
“นายรู้!! ทำไมไม่บอกฉันว่าเครือข่ายของฟลูใช้การไม่ได้นอกจากเมแกนล่ะ!!!” เฟร็ดเอื้อมมือหมายจะหยิบ ขี้เถ้าออกให้ แต่เธอปัดมือเขาทิ้งด้วยความโมโห นั่นไม่ได้ทำให้เขาสำนึกเลย เขากลับสนุกมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทีโกรธเกรียวของร่างบาง
“ฉันผิดหรือไง ก็เธอไม่ได้ถามฉันนี่นาสาวน้อย…?” ชายร่างสูงส่งสายตาเจ้าเล่ห์ออกมาทำให้อารมณ์ของเด็กสาวพุ่งปรี๊ดกว่าเดิม
“ขอโทษได้มั้ยล่ะ!! …ฉันผิดเองแหละพอที ฉันจะขึ้นไปข้างบนและไม่ลงมาอีกจนกว่าเมแกนจะกลับมา เพราะฉะนั้นห้ามรบกวนเด็ดขาด!!!!” และเธอก็วิ่งตึงตังขึ้นห้องไปทันที
เมื่อถึงห้องเธอก็ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยใบหน้าที่บัดนี้แดงก่ำ ไม่ใช่เพราะโกรธ หรืออายที่ทำเรื่องขายหน้าต่อหน้าเขา …แต่เป็นเพราะร่องรอยบนเรือนผมที่เขาสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอยู่ราวกับว่าเขากำลังสัมผัสมันอยู่จนถึงตอนนี้
เมื่อถึงห้องเธอก็ทิ้งตัวลงบนเตียงด้วยใบหน้าที่บัดนี้แดงก่ำ ไม่ใช่เพราะโกรธ หรืออายที่ทำเรื่องขายหน้าต่อหน้าเขา …แต่เป็นเพราะร่องรอยบนเรือนผมที่เขาสัมผัสเมื่อครู่ยังคงอยู่ราวกับว่าเขากำลังสัมผัสมันอยู่จนถึงตอนนี้
เฮอร์ไมโอนี่ลูบเรือนผมตัวเองอย่างแผ่วเบาก่อนจะหลับตาลงด้วยความรู้สึกบางอย่างที่เริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจ…
............................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น