HOME........... แนะนำนิยาย.......... Gallery............VIDEO........... ติดต่อเรา

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

EP.18 Deathly Hallows เราคือ..นายแห่งยมทูต เฟร็ด/เฮอร์ไมโอนี่


EP.18

คลี่คลาย – มังกร




วันนี้เฟร็ดรีบตื่นแต่เช้าเพื่อลงมาต้อนรับ ลาเฟอัส  และทั้งสองก็ขี่ม้าเข้าป่าไปด้วยกันดังเช่นทุกวัน
ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินทางผ่านทุ่งหญ้า  ทางตอนเหนือของป่า   เฟร็ดก็ตัดสินใจดำเนินแผนการ   หาข้อมูลของ เครื่องรางยมทูต  ทันที
เอ่อ …ข้าขอถามอะไรท่านหน่อยสิ  ท่านอา
ว่ามาหนุ่มน้อย…”
ท่านว่า เครื่องรางยมทูตมีอยู่จริงหรือไม่??”    คำถามของเฟร็ดทำเอาผู้เป็นอาจารย์เงียบไป  ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม
ถ้าเจ้าคิดว่ามี   มันก็มี”   ลาเฟอัสพูดไว้เป็นปริศนา
ท่านพอจะเล่าให้ข้าฟังหน่อยได้มั้ย..?”
เมื่อเห็นสายตาสงสัยของ ลาเฟอัส ที่มองเขาอย่างจับผิด   เฟร็ดก็รีบพูดให้เหตุผลเท็จ ทันที
คือ   ข้าชื่นชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์มากๆ   เลย และมักจะศึกษาทุกเมื่อที่มีโอกาส”   ลาเฟอัสพยักหน้าอย่างเข้าใจ   ก่อนจะเริ่มเล่าถึงความเป็นมาของ ‘เครื่องรางยมทูต

ชายสามพี่น้อง กำลังเดินทางไปตามถนนที่คดเคี้ยวและเปล่าเปลี่ยวในยามเย็น สามพี่น้องได้มาถึงแม่น้ำซึ่งลึกเกินกว่าจะเดินลุยข้าม และเชี่ยวกรากเกินกว่าจะว่ายข้ามไป แต่พี่น้องทั้งสามคนเป็นพ่อมด พวกเขาจึงเสกสะพานขึ้นมา แต่พอข้ามไปถึงกึ่งกลางสะพาน ยมทูตได้ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา
ยมทูตโกรธมากที่ไม่ได้วิญญาณกลับไป เพราะนักเดินทางส่วนมากจะตกน้ำแต่ด้วยความเจ้าเล่ เขาแสร้งทำเป็นยินดีกับสามพี่น้อง และบอกว่าทั้งสามควรได้รับรางวัล ในฐานะที่ฉลาดพอจะหลบเลี่ยงยมทูตได้ พี่ชายคนโตเป็นคนชอบต่อสู้ ขอไม้กายสิทธิ์ที่มีอำนาจเหนือกว่าไม้ใดๆ ในโลก ยมทูตจึงข้ามไปเด็ดกิ่งต้นเอลเดอร์ซึ่งขึ้นอยู่ริมตลิ่งออกมาทำไม้กายสิทธิ์ให้พี่ชายคนโต
พี่คนรองอยากทำให้ยมทูตอับอายขายหน้ามากขึ้นอีก จึงขออำนาจที่จะเรียกใครก็ได้กลับมาจากความตาย ยมทูตจึงหยิบหินก้อนหนึ่งขึ้นมาจากริมฝั่ง และมอบให้พี่ชายคนรอง บอกเขาว่าหินก้อนนี้มีอำนาจนำคนตายกลับมาได้
น้องคนสุดท้องเป็นคนถ่อมตัวที่สุด และฉลาดที่สุดในบรรดาพี่น้องสามคน เขาไม่เชื่อใจยมทูตจึงขออะไรก็ได้ที่จะทำให้ยมทูตไม่สามารถติดตามเขาไปได้ ยมทูตจึงมอบผ้าคลุมล่องหนของตนให้ด้วยความไม่เต็มใจ จากนั้นยมทูตก็หลีกทาง ปล่อยให้สามพี่น้องเดินต่อไป พวกเขาพูดคุยถึงการผจญภัย และของขวัญจากยมทูต แล้วสามพี่น้องก็แยกทางกัน
พี่คนโตเดินทางไปถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาท้าประลองกับพ่อมดที่เคยมีเรื่องวิวาทด้วย และเอาชนะมาได้ เขาเดินไปยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง แล้วคุยโวเรื่องไม้กายสิทธิ์อันนั้น ในคืนนั้นจึงมีพ่อมดมาขโมยไม้กายสิทธิ์ไป แถมยังเชือดคอพี่ชายคนโต ยมทูตจึงได้พี่ชายคนโตไป
น้องคนรองเดินทางกลับบ้านของตนเอง เขาหมุนหินชุบวิญญาณในมือสามครั้ง แล้วร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งก็โผล่ออกมา เธอคือคนรักของน้องรอง และกำลังจะได้แต่งงานแต่ต้องมาตายเสียก่อน แต่เธอกลับห่างเหินและเย็นชา ทำให้น้องคนรองกลายเป็นบ้าและฆ่าตัวตาย ยมทูตจึงได้น้องคนรองไป
ส่วนน้องคนที่สาม ได้สวมผ้าคลุมล่องหนตลอดเวลา ทำให้ยมทูตซึ่งแม้จะพยายามตามหาเขาสักเท่าไรก็หาไม่เจอ ในที่สุดเมื่อผู้เป็นน้องชรามากแล้ว เขาจึงมอบผ้าคลุมให้ลูกชาย และเดินทางไปกับยมทูตอย่างเสมอกัน

แอนตีโอก เพฟเวอร์เรลล์ พี่คนโต  เจ้าของไม้กายสิทธิ์เอเดอร์  เขามีภรรยาชื่อว่า นิมฟาร่า’  และคลอด เฮอร์มิอัส ได้เพียง ปี  เขาก็ถูกฆ่าตายและโดนชิงไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ไป  หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบหรือเห็นมันอีกเลย
แคดมัส เพฟเวอร์เรลล์ พี่คนรอง เจ้าของหินชุบวิญญาณ  เขามีคนรักแต่ก็ไม่สมหวัง  เขาฆ่าตัวตายตามเธอไป  และเชื่อกันว่าหินชุบวิญญาณ อยู่กับเขา  และตอนนี้มันก็ยังอยู่กับเขา
อิกโนตัส เพฟเวอร์เรลล์  น้องคนสุดท้อง เจ้าของผ้าคลุมล่องหน  เขามีคนรักเป็นลูกครึ่งวีล่า  นามว่า ‘แอชลีย์’  มีลูกชายด้วยกัน ก็คือ ลาเฟอัส’ เจ้าของผ้าคลุมล่องหนคนปัจจุบัน  และเป็นอาจารย์สอนล่าสัตว์ของ เฟร็ดนั่นเอง….
เฟร็ดรีบประมวลข้อมูลที่ได้ทันที   เขาแสร้งทำเป็นไม่ค่อยใส่ใจ  กับเรื่องเล่าดังกล่าวจนเกินไป  เพื่อไม่ให้ลาเฟอัส  จับพิรุธได้   ทั้งที่ในใจ อยากจะหายตัวไปบอกข่าวกับเฮอร์ไมโอนี่ซะเดี๋ยวนี้เลย
เรื่องราวช่างยิ่งใหญ่   และมหัศจรรย์ยิ่งนัก”    เฟร็ดกล่าวชื่นชมพอเป็นพิธี  ลาเฟอัสพยักหน้าให้เขาอย่างเห็นด้วย   เฟร็ดรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
ท่านอา  ท่านเคยเห็นชาวเงือกหรือไม่??”   เฟร็ดถามขึ้นขณะดึงให้ม้าหยุด   ลาเฟอัสหันมามองเขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ
เคยสิ  2  ครั้ง!”
“2 ครั้ง!!  ท่านช่วยพาข้าไปดูได้มั้ย  …ข้าอยากเห็น!!”   แววตาของเฟร็ดเป็นประกายด้วยความตื่นเต้นเหมือนเด็กน้อย  ในสายตาของ ลาเฟอัส ไม่มีผิด
ชาวเงือกมีพฤติกรรมรักความสงบ    เป็นการยากที่จะพาเจ้าไปดู   แต่ข้าสามารถพาเจ้าไปยังที่อยู่ของพวกเขาได้”    และลาเฟอัส  ก็บังคับม้าไปในทิศทางของทะเลสาบที่ถูกกล่าวขานในนามของ ทะเลสาบดำ
และเป็นดังที่ เลเฟอัสบอก   พวกเขาแอบซุ่มดูอยู่หลายชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววของเหล่าเงือกเลยซักตัว  จนเฟร็ดถอดใจล่าถอยออกมา   แต่ขณะที่เขาและ ลาเฟอัส กำลังจะเดินทางกลับคฤหาสน์
พวกเขาก็รู้สึกถึงเงาขนาดใหญ่ที่ทาบทับลงมา   ตามด้วยแรงลมมหาศาลเฟร็ด เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า   มันคือมังกรพันธุ์เวลส์สีเขียว โตเต็มวัย  กำลังร่อนลงจอดตรงที่พวกเขาทั้งสองอยู่
เฟร็ดและ ลาเฟอัส รีบบังคับม้าออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้   เสียงควบม้าของทั้งสองเรียกความสนใจมังกร  ที่พึ่งร่อนลงมาถึงพื้นได้เป็นอย่างดี   มันพ่นไฟใส่พวกเขา  แต่ทั้งสองหลบได้อย่างฉิวเฉียด
ให้ตาย!!!   ที่นี่มีมังกรด้วยหรอ?!!”   เฟร็ดตะโกนฝ่าลมอย่างหัวเสีย
ไม่มีหรอก  ในป่านี้มีแต่สัตว์วิเศษขนาดกลางลงมา  ใหญ่ขนาดมังกรไม่มีหรอก!!”
แล้วทำไม?”
สงสัยมันจะหลงถิ่นมา!!”    และทั้งสองก็ควบม้าไปเรื่อยๆ  โดยมีมังกรพันธุ์เวลส์  บินตามมาประชิดพวกเขา   เฟร็ดชักไม้กายสิทธิ์ออกมาและเสกคาถาใส่มันทันที
สตูเปปาย!!”   มังกรตัวดังกล่าวชะงักไปก่อนจะล่วงลงกลางอากาศ  กระแทกพื้นอย่างแรง   ลาเฟอัสเสกคาถาให้โซ่ล่ามมังกรไว้  แต่พอมันรู้สึกตัวก็กระชากโซ่ที่ขึงร่างมันไว้จนขาดกระจาย!!
ลาเฟอัสตกใจมากที่มังกรสามารถทำลายโซ่ของเขาลงได้    แต่ที่น่าแปลกใจกว่า  ถึงแม้จะใช้คาถาที่คล้ายกัน   แต่ทำไมคาถาของเด็กหนุ่มกลับมีอานุภาพร้ายแรงกว่าเขา    คำตอบคือเมื่อกาลเวลาผ่านไปคาถาจะมีอานุภาพเพิ่มมากขึ้น  และเฟร็ดก็เป็นคนจากยุคอนาคต   คาถาดังกล่าวจึงมีผลกับเขาแม้จะอยู่ในโลกอดีตก็ตาม
ทั้งคู่ควบม้า  มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์  และเสกคาถาใส่มังกรไปด้วย    เฟร็ดรู้สึกหมดหนทางถึงขั้นเสกคาถาพิฆาตใส่มังกร   แต่มันหลบได้  
จู่ๆ  เขาก็หวนนึกถึงวันสอบวิชา ว...ส   ของเด็กปี ขึ้นมา   ก่อนจะเสกลูกไฟขนาดใหญ่ขึ้นมา   มันระเบิดออกและกลายเป็นมังกรพันธุ์จีนลูกไฟ ขนาดใหญ่  ที่มีความร้อนแผ่ออกมาก่อนที่ลูกไฟนั้นจะพุ่งเข้าใส่มังกรพันธุ์เวลส์ทันที    มันร้องครางออกมาอย่างเจ็บปวดเมื่อถูกสะเก็ดไฟและความร้อนลวกผิวหนัง
เฟร็ดไม่รอช้า  เขาและ ลาเฟอัส เสกคาถาใส่มันไปหลายที   เท่าที่เขาจะนึกออกในตอนนี้!
สตูเปฟาย!!   ….เซกตัมเซมปร้า!!   …ครูซิโอ!!”   มังกรพันธุ์เวลส์ล่วงลงกับพื้นดิ้นทุรนทุราย  เมื่อโดนคำสาปโจมตีอย่างต่อเนื่อง     ร่างของมันมีร่อยรอยของมีคมกรีดเป็นทางยาว  ทั่วทั้งตัว
เสียงร้องของมันเกือบทำให้เขาใจอ่อน    มันพ่นไฟใส่หลังลาเฟอัส  โดยไม่ตั้งตัวทำให้เขาร่วงลงจากหลังม้าอย่างแรง
เฟริเซียส  จัดการมันเลย!!”    เฟร็ดวิ่งเข้ามาช่วย ลาเฟอัส ก่อนจะเสกคำสาปสุดท้ายใส่มังกร
อะวาดา เคดาฟ-รา!!”    สิ้นเสียงร่างยักษ์ของมังกรพันธุ์เวลส์สีเขียวก็ล้มตึง   และลมหายใจของมันก็กระตุกวูบ   จนเหลือไว้แต่เพียงร่างที่ไร้วิญญาณของมัน…!!

ทั้งสองเดินทางกลับคฤหาสน์ทันที   ลาเฟอัส เข้ารับการรักษาที่สถานบำบัดแห่งหนึ่ง  แผลที่ถูกไฟไหม้เริ่มลุกลาม    เพราะมันเป็นไฟจากมังกรพันธุ์เวลส์   แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว
เฟร็ดบอกเรื่องที่เขา   และอาจารย์ถูกมังกรทำร้ายให้  ท่านพ่อและท่านแม่ เขาฟัง   ทั้งสองตกใจมาก  แต่ก็โล่งใจที่ลูกชายสุดที่รักไม่เป็นอะไรมาก   อีกทั้งยังชื่นชมในความกล้าหารของเขา   ที่สามารถสยบมังกรยักษ์ลงได้   พวกเขาแจ้งทางกระทรวงให้ปิดล้อมป่า  และทำการขนย้ายซากของมันออกมาทันที
โดยภายหลังทราบว่ามังกรตัวนี้พลัดหลงมาจากทางตอนใต้    และเข้าทำลายบ้านเรือนลงหลายร้อยหลัง    ดีที่เฟร็ดจัดการมันลงได้ก่อนที่จะมีผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้น
ทางกระทรวงยกย่อง   ให้เขาเป็นวีระบุรุษคนแรกที่สามารถสยบมังกรยักษ์ลงได้   ในนามของ เฟริเซียสผู้สยบมังกร’ !!!


 
 
..................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น