EP.16
ความลับของวีล่า
ชายหนุ่มผมดำงุ่มง่ามเดินไป เดินมาในคุกอย่างหนูติดจั่น ผ่านไปร่วม 2 ชั่วโมง แล้วที่เฮเลนถูกพวกนักต้อนพาตัวไป
“โถ่เว้ย!!!” อีวานทุบลูกกรงขังอย่างแรง สร้างความตกใจให้คนในคุกอย่างมาก ยกเว้นชายชรานักเล่นแร่ที่นั่งมองท่าทางของชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงแหบพร่า
“ใจเย็นก่อนพ่อหนุ่ม….” อีวานทรุดตัวลงกับพื้นอย่างแรง ก่อนจะได้ยินเสียงการต่อสู้ และเสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นมาแต่ไกลๆ ก่อนจะเงียบไป สร้างความแปลกใจให้กับชายหนุ่มผมดำเป็นอย่างยิ่ง
“อีวาน!!”
หญิงสาวผมบลอนด์วิ่งเข้ามาเกาะลูกกรง
หญิงสาวผมบลอนด์วิ่งเข้ามาเกาะลูกกรง
“เฮเลน! เธอกลับมาแล้ว!!” อีวานลุกขึ้นยืน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาร่างบางที่อยู่อีกฟากของลูกกรงอย่างโล่งใจ เมื่อได้เห็นใบหน้าของเฮเลนผู้หญิงที่เขาห่วงหา
อีวานสังเกตเห็นบาดแผลเล็กๆ ที่แก้มนวลของเธอ ก่อนจะลูบเบาๆ ที่บาดแผลนั่น
“เธอเป็นยังไงบ้าง?” เฮเลนส่ายศีรษะเป็นเชิงปฏิเสธว่าเธอไม่เป็นอะไร
“ฉันโอเค!”
เฮเลนถอยหลังออกมาจากกรงห้องขัง เผยให้เห็นจอร์จและมือปราบที่สภาพสะบักสะบอมจากการต่อสู้เมื่อครู่นี้ จอร์จเสกคาถาปลดล็อกห้องขังก่อนที่จะพาพวกข้างในออกมา
หญิงผมบลอนด์โผเข้ากอดชายผมดำด้วยความขวัญเสีย อีวานลูบศีรษะร่างบางอย่างปลอบขวัญ ก่อนที่พวกเขา มือปราบและผู้ที่ถูกขังทั้งหมดจะขึ้นมาจากคุกใต้ดินอย่างรวดเร็ว ทางด้านเฟร็ดและเฮอร์ไมโอนี่ ก็เดินลงมาจากชั้นบนมายังห้องโถง คนทั้งสองกลุ่มเดินมาเจอกันก่อนจะพากันหายตัวเข้าไปในเตาผิง โดยจุดหมายปลายทางของพวกเขาคือ …บ้านเลขที่ 12 กริมโมลด์เพลซ
ณ กริมโมลด์เพลซ 12
เมื่อทุกคนมาถึงกริมโมลด์เพลซ ก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อน มือปราบคนอื่นๆ ขอตัวกลับไปสะสางงานต่อที่กระทรวง เฮอร์ไมโอนี่ กำลังนั่งทำแผลให้กับแฝดทั้งสอง ที่กำลังนั่งจิบชาพลางร้องโอดครวญอย่างน่าหมั่นไส้
ตั้งแต่เข้ามาในภาคีลับแห่งนี้ เฮเลนก็กวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องอย่างหวาดกลัว เมื่อร่างบางเดินเข้ามาในห้องประชุมที่มีโต๊ะยาววางอยู่กลางห้อง ในที่หัวโต๊ะก็มีบุคคลทั้ง 5 นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
หญิงวัยกลางคนในชุดหญิงสูงศักดิ์ลุกขึ้นจากที่นั่งข้าง คิงสลี่ย์ เข้ามากอดชายหนุ่มผมดำด้วยความดีใจ เมื่อได้เห็นหน้าลูกชายอีกครั้ง
“คุณแม่…”
“อิล! ลูกเป็นยังไงบ้าง!!?”
“ผมไม่เป็นไรครับ เอ่อ.. แม่ครับนี่ เฮ…!!” อีวานโอบไหล่ร่างบางข้างตัว
แต่จู่ๆ ร่างบางก็ถูกสวมกอดโดยผู้หญิงผมบลอนด์ท่ามกลางความตกใจของคนทั้งห้อง
“อ่ะ …เฟลอร์..??”
เฟลอร์ผละร่างบางออก ก่อนจะแนะนำหญิงสาวผมบลอนด์ข้างตัวให้ทุกคนในห้องรู้จัก
“เธอคือ เฮเลน แม็คคาร์ดี้ ลูกสาวของป้าฉันที่หายตัวไปกว่า 2 ปีแล้วค่ะ”
“จริงๆ แล้ว …พวกมัลฟอย มีความเชื่อว่า ถ้านำเลือดวีล่า มาผสมกับแร่วิเศษอีก 3 อย่าง จะทำให้เขามีอำนาจเหนือผู้วิเศษคนใดในโลก…”
ทุกคนให้ห้องประชุมรู้สึกอึ้งในความบ้าอำนาจของตระกูลมัลฟอย ถึงขนาดที่จะคร่าชีวิต สายเลือดวีล่าที่มีเพียงหยิบมือ คิงสลี่ย์เดินเข้ามาหาชายหนุ่มผมดำ พร้อมกับอาร์เธอ
“เอาล่ะ วันนี้พวกเราทุกคนก็ทานอาหารค่ำที่นี่กันเลยนะ” คิงสลี่ย์โอบไหล่ภรรยาของตัวเอง และส่งมือมาให้เฮอร์ไมโอนี่จับ หญิงผมน้ำตาลยิ้มรับก่อนจะช่วยพยุงเฟร็ดขึ้นจากโซฟา และอาหารค่ำก็เริ่มขึ้นและจบลงในไม่ช้า..
เอลฟ์เข้ามาเก็บจานอาหาร สายตาเฉียบคมของจอร์จก็ไปเจอเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่ง ที่กำลังนั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟาหน้าเตาผิงอย่างสนิทสนม จึงเอ่ยปากแซว เปิดประเด็นเรียกความสนใจให้คนในภาคีเป็นอย่างมาก..
“อีวาน!”
“ว่าไงเฟร็ด หรือจอร์จนะ?”
“ฉันจอร์จ …นายกับเฮเลนเป็นอะไรกันหรอ?” อีวานสะดุ้งจนแทบตกโซฟาเมื่อได้ยินคำถามของแฝดตัวป่วน
“เอ่อ..” ทั้งสองอ้ำอึ้งมองหน้ากันเหลอหรา ถึงแม้พวกเขาจะรู้สึกดีๆต่อกันมากขนาดไหน แต่ทั้งสองก็ไม่เคยเปิดอกคุยกันอย่างจริงจังถึงสถานะความสัมพันธ์ใดๆ เพราะทั้งคู่พึ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึง 3 วันด้วยซ้ำ
เฟลอร์เดินเข้ามาหาร่างบางที่โซฟา ก่อนจะจ้องหน้าเฮเลนด้วยความงุนงง
“พี่เฟลอร์ ฉันอยากจะบอกพี่ว่า…”
“….” ราวกับทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ ราวกับรอฟังคำพูดของสาวร่างบางอย่างตั้งใจ
“ฉันเจอ ฟาเซล ของฉันแล้วค่ะ แล้วเขาก็คือ…อีวานค่ะ!” ทุกคนต่างมองมาที่ร่างบางบนโซฟาเป็นตาเดียวด้วยความงงงัน รวมถึงชายผมดำด้วย มีเพียงเฟลอร์ เท่านั้นที่ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและเริ่มอธิบายถึงความหมายของ ‘ฟาเซล’ ให้ทุกคนในที่นี้ฟัง
“ทุกคนคะ คำว่า ‘ฟาเซล’ เป็นชื่อเรียกของคู่รักของ ‘วีล่า’ เมื่อพวกเรามีสัญลักษณ์บางอย่างที่คล้ายกัน และความรู้สึกถูกชะตาพาทั้งสองมาพบกัน”
ทุกคนในห้องพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะหันมาที่หญิงชายทั้งสองที่กำลังนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา
“ว่าที่หัวหน้ามือปราบของพวกเรา ในที่สุดก็สนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องงานซะที!” ท็องส์แซวขึ้นมา ก่อนจะเรียกรอยยิ้มคนในภาคี หญิงสาวในชุดสูงศักดิ์เดินเข้ามาหาลูกชาย ก่อนจะยิ้มอ่อนโยนให้กับสาวน้อยผมบลอนด์ข้างๆ ลูกชายเธอ
“ยินดีด้วยนะอีวาน แม่คิดว่าเราจะไม่สนใจผู้หญิงแล้วเสียอีก…”
“แม่ครับ!” ชายหนุ่มโพล่งออกมาด้วยใบหน้าที่เริ่มขึ้นสี
ทุกคนเริ่มทยอยออกไปจากห้องประชุมเพื่อทำธุระส่วนตัว ของตัวเองเหลือทิ้งไว้เพียงหนุ่มสาวสองคนที่ยังคงนั่งอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิง
หญิงสาวหันหน้ามาหาชายหนุ่มก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียง และใบหน้าเขินอาย
“นายมีปานรูปพระจันทร์เสี้ยวที่ท้องแขนน่ะ …รู้ตัวรึป่าว?”
“เอ๋??” ชายหนุ่มผมดำพลิกข้อมือทั้งสองข้างขึ้นดู ก็พบว่ามีปานสีแดงจางๆ รูปพระจันทร์เสี้ยวที่ท้องแขนข้างขวาอยู่จริงๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับเฮเลนอย่างสงสัย และสาวผมบลอนด์ก็ชูแขนข้างซ้ายที่มีปานแดงรูปพระจันทร์เกือบเต็มดวงให้เขาดู
“สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเราเกิดมาเพื่อเติมเต็มให้กันและกัน”
“จริงหรอ?... แล้วเติมเต็มยังไงล่ะ” ชายผมดำส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาที่หญิงสาวตรงหน้าที่มองมายังเขาด้วยแววตาขบขัน ก่อนจะประสานมือซ้ายเข้ากับมือขวาของเขา จนท้องแขนทั้งสองสัมผัสกันจนปานทั้งสองประสานกัน เป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง เกิดแสงสว่างสีขาวนวลออกมาจากดูงดงามสร้างความตื่นตาให้กับชายหนุ่มผมดำยิ่งนัก
อีวานจ้องมาที่ตาคู่สวยของเฮเลนอย่างหลงใหล ก่อนจะโน้มศีรษะเข้ามาใกล้ เฮเลนจนริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกันอย่างดูดดื่ม ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมน และแสงสีขาวที่เปล่งแสงออกมาโอบล้อมพวกเขาทั้งคู่ไปจนจวบสิ้นลมหายใจ….
...................................................................................................
ภาพนี้ผู้เขียนตัดต่อเองนะคะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น