HOME........... แนะนำนิยาย.......... Gallery............VIDEO........... ติดต่อเรา

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

EP.12 Deathly Hallows เราคือ..นายแห่งยมทูต เฟร็ด/เฮอร์ไมโอนี่


EP.12

อาหารค่ำ+เราสองคน




            ดึกแล้วแต่เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่ลงมา  และไม่มีทีท่าจะลงมาเลย  เฟร็ดนั่งคิดสูตรส่วนผสมต่างๆ  สำหรับใช้สร้างสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ของเขาอยู่บนโต๊ะทำงานในห้องนั่งเล่น   เขาเงยหน้ามองนาฬิกาแขวนผนังแบบโบราณ เป็นครั้งที่สอง

            21.45 น.
            เวลาขนาดนี้แล้ว แต่เมแกนยังไม่กลับมาเลย    เฟร็ดรู้สึกร้อนใจอย่างประหลาด  หิวก็หิว  นอกจากนั่งคิดค้นของเล่นใหม่ก็ไม่มีอะไรให้เขาทำเลย  มันน่าเบื่อที่สุด 
           เฟร็ดเดินเข้าห้องครัวไปรื้อๆ  ค้นๆ  ในตู้เก็บของ  เขาเจอเข้ากับไข่ ,  เนย เส้น สปาเก็ตตี้หลายรูปแบบเท่าที่จะมีในโลก เครื่องปรุงรส และผักหลากหลากสี   ร่างสูงคิดในใจว่าวัตถุดิบเหล่านี้น่าจะพอไปทำอะไรได้บ้าง
          และเขาก็นึกไปถึงอาหารที่พวกมักเกิ้ลชอบทาน   เฟร็ดดีดนิ้ว ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงอันดัง
           “สปาเก็ตตี้ซอสเห็ดนี่แหละ!!!

             ผ่านไป 30 นาที   กับความพินาศที่ เฟร็ดได้ก่อขึ้น   ผักหล่นกระจายไปทั่วพื้น   ควันโขมงทั่วห้องครัว  น้ำซอสหกกระจาย  และรอยแผลขนาดยาวที่เกิดจากมีดบาด 2-3 รอย บนมือเขาเอง
             แม้เขาจะเคยเข้าครัวแต่การที่ไม่มีไม้กายสิทธิ์กับตัวแบบนี้เขาก็ไม่ต่างจากพวกมักเกิ้ลเลย   เอฟล์ประจำคฤหาสน์พยายามจะเข้ามาช่วยเขาจัดการเตรียมอาหาร แต่เฟร็ดก็ปฏิเสธความช่วยเหลือ    จนเอฟล์ตัวดังกล่าวต้องเดินคอตก   และหายตัวไปจากตรงนั้นในที่สุด
             แว๊บหนึ่งเขาอยากจะเดินขึ้นไปขอยืมไม้กายสิทธิ์ของเฮอร์ไมโอนี่    แต่ก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นทันที  พร้อมกับทำมือไขว้กันเป็นรูปกากบาท  และส่ายหัวอย่างเซ็งๆ  เมื่อนึกถึงสมญานามความปรี๊ดแตกของเธอเมื่อสมัยปี 3 ที่ห้องเรียนวิชาพยากรณ์ศาสตร์    และที่สำคัญเขาก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบเมื่อเช้าอีก
             “เสร็จแล้ว!!!
             เฟร็ดตาเป็นประกายมองสปาเก็ตตี้ซอสเห็ดในจานแบ่งขนาดใหญ่  
             ร่างสูงลูบมือไปมา   และยิ้มอย่างภูมิใจกับผลงานของตัวเอง   ก่อนจะเรียกเอลฟ์ให้ขึ้นไปตามเฮอร์ไมโอนี่ลงมา  แถมยังกำชับกับเอลฟตัวนั้น
            “ให้บอกเธอว่าลงมาทานอาหารค่ำ   เมแกน กลับมาแล้ว”   มันโค้งให้เขาก่อนจะหายตัวไป
            เอลฟ์แก่อีกตัวเดินเข้ามาเก็บกวาดห้องครัวพลางบ่นงึมงำอะไรซักอย่างที่เขาจับใจความไม่ได้ ...แต่ใครจะสน


            ไม่นานเฮอร์ไมโอนี่ก็เดินลงมาจากห้องนอน  เมื่อถึงห้องครัว   เธอมองไปรอบๆ ห้อง  ก่อนจะหยุดอยู่ที่ชายผมแดงที่ยืนส่งยิ้มแป้นมาให้อย่างน่าเอ็นดู   แต่นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชม   เธอขมวดคิ้วจนแทบจะชนกัน    เมื่อเห็นว่าห้องทั้งห้องมีเขาอยู่แค่เพียงคนเดียว
            “เมแกนล่ะ?   เอลฟ์ไปตามฉันบอกว่าเธอกลับมาแล้ว”   เฮอร์ไมโอนี่จ้องหน้าเฟร็ดอย่างเอาเรื่อง นี่เขาจะแกล้งอะไรฉันอีกเนี่ย!!
            “เธอยังไม่มาหรอก    ..แต่ฉันคิดว่ามันดึกมากแล้ว และเธอก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย  ตั้งแต่เที่ยง   ฉันกลัวว่า….”
            เฟร็ดรีบพูดรัวเร็ว เขาไม่รู้ว่าทำไมต้องทำเช่นนี้ด้วย  และเวลาที่เขาแกล้งใครจนคนนั้นโกรธ  ก็ไม่เคยต้องอธิบายอะไรให้มากมาย  และเขาก็ไม่เคยรู้สึกผิดขนาดนี้ด้วย  เฟร็ดเงียบก่อนจะคิดหาเหตุผลให้กับคำถามภายในใจ อย่างสับสน   ก่อนที่เสียงของร่างบางตรงหน้าจะดึงความสนใจอีกครั้ง
            “อืม   ฉันเข้าใจละ…”    และเธอก็เดินมานั่งตรงข้ามกับเขา  เฟร็ดโล่งใจที่ไม่โดนเธอเหวี่ยงใส่  ก่อนจะตักสปาเก็ตตี้ซอสเห็ดลงในจานทั้งสองใบ   และส่งใบหนึ่งให้เธอ
            เฮอร์ไมโอนี่มองอาหารตรงหน้าด้วยสายตาหวาดระแวงก่อนจะเลื่อนมันออกเบาๆ 
            “อะไรกัน?!   ฉันอุตส่าตั้งใจทำนะสาวน้อย”  เฟร็ดย่นคิ้วด้วยความไม่พอใจ
            “ก็เพราะว่านายเป็นคนทำน่ะสิฉันถึงได้กลัวไง!!”  เฮอร์ไมโอนี่โพล่งออกมาเสียงดัง   จะไม่ให้นะแวงได้ไงในก็เมื่อใครๆ ก็รู้ถึงวีรกรรมของสองแฝดว่ามันดังกระฉ่อนขนาดไหนเรื่องการสร้างความวุ่นวาย เผลอๆ ในจานนี้อาจจะมี  สิ่งประดิษฐ์ใหม่ที่เขาพึ่งคิดค้นแอบเอามาให้เธอกิน   เหมือนกับที่พวกเขามักจะเอามาหลอกให้รอนกินเหมือนที่ผ่านๆ มาก็เป็นได้!!!

             “สาวน้อยแสนฉลาด    ที่แท้ก็กลัววีระบุรุษที่ยิ่งใหญ่แห่งฮอกวอตส์ อย่างฉันนี่เอง ….น่าขายหน้าชะมัด”   เฟร็ดลุกขึ้นกอดอกและมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าที่เหนือกว่าใส่เธอ  เส้นเลือดบนขมับของร่างบางกระตุกทันทีที่เฟร็ดพูดจบ
             “ได้เฟร็ด  ฉันจะกิน!!”    พูดจบก็ตักสปาเก็ตตี้เข้าปากอย่างรวดเร็ว   ก่อนจะทำตาโตกับรสชาติที่เธอยังคาดไม่ถึง!
             “อะ  ..อร่อยจัง!!”   เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมอง เฟร็ดที่กำลังมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว   เขาพยักหน้า  และพูดขึ้นทำท่าทางประกอบเรียกรอยยิ้มของร่างบางตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
            “ข้าน้อมรับคำชมพะยะค่ะองค์หญิง”   เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะออกมาเสียงดังกับท่าทาง  และคำพูดแสนพิลึกของเขา  เฟร็ดยิ้มบางๆ  ให้เธอ ทั้งสองจัดการอาหารตรงหน้าหมดอย่างรวดเร็ว 
            เฟร็ดเดินมาเก็บจานให้ เฮอร์ไมโอนี่เพราะเขาไม่ถนัดที่จะใช้เอลฟ์   แต่เธอก็ดึงดันว่าจะเก็บเอง
           “ไม่เป็นไรฉันจะช่วยเอง  ..นะ
           “ไม่ต้องหรอก  เธอเป็นแขกของอาหารค่ำนี้นะ
           เฟร็ดเดินอ้อมมาหยิบจานออกจากมือของร่างบางแต่เธอยื้อมันเอาไว้    เฟร็ดแรงเยอะกว่าอาศัยจังหวะดึงจานมาจนได้  
           “ว้าย!! /เหวอ!!
           ร่างของ เฮอร์ไมโอนี่เซถลาไปชนอกกว้างที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างเสียการทรงตัว  จนหน้าของเธอแนบเข้ากับหน้าอกของเขาทันที
           เฮอร์ไมโอนี่คว้าไหล่ร่างสูงเพื่อ  ผยุงตัวเองขึ้นโดยมีมือของเฟร็ดประคองที่เอวของเธออยู่  ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาขี้เล่นที่บัดนี้แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์   ร่างกายของทั้งคู่ที่เบียดชิดกันจนเริ่มรู้สึกถึงอุณหภูมิในร่างกายที่สูงขึ้นของชายตรงหน้า  ชวนให้ร่างบางในอ้อมกอดอ่อนระทวยจนแทบจะลงไปนอนกับพื้นอยู่รอมร่อ..
          เฟร็ดจ้องลึกลงไปที่ดวงตากลมโตสีน้ำตาล คู่สวยที่ไหวระริกด้วยความตกใจ  แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนไร้เดียงสา    ช่างรับกับใบหน้าเรียวสวยอย่างลงตัว
          เขาเผลอมองหน้าเธอด้วยความลุ่มหลงจนแทบลืมหายใจ   ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าเรียวแรงของร่างบางในอ้อมกอดเขาหายไปหมด 
          ชายผมแดงเหมือนกำลังตกลงไปอยู่ในบ่อน้ำผึ้งที่หอมหวาน   จนถอนตัวไม่ขึ้น   และสุดท้ายก็ค่อยๆ จมลงไป 
          เฟร็ดพยายามเรียกสติกลับคืนมา  และใบหน้าของรอนน้องชายก็ผุดขึ้นมาในความคิดของเขา

          ณ  หอพักกริฟฟินดอร์
        ‘นายชอบเฮอร์ไมโอนี่หรอน้องรัก’ หนึ่งในแฝดวีสลี่ย์เดินมานั่งบนโซฟาข้างน้องชายของเขา
        ‘เงียบเถอะน่าจอร์จ’ รอนหน้าแดงก่ำเมื่อถูกแซว
        ‘นายไม่คิดบ้างหรอว่า  ซักวันหนึ่งนายกับเธออาจจะมีลูกเป็นหนอนหนังสือก็ได้’ ผู้มาใหม่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสนุกสนาน
        ‘เชมัสอย่าพูดมากน่ะ!!   อย่าไปสนใจเขาเลย’  เนวิลพูดขึ้นและยื่นกบช็อกโกแลตให้รอน
        ‘สู้ๆ นะรอน’  แฮร์รี่ตบที่บ่าของรอนเบาๆ เชิงให้กำลังใจ
        ‘ได้เลย  ฉันจะขอเธอเป็นแฟนก่อนเรียนจบฮอกวอตส์แน่นอน พวกนายต้องช่วยฉันนะเฟร็ดจอร์จ   และก็   นายด้วยล่ะเฟร็ด  เดี๋ยวมีลูกไม่ทันใช้ล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ’ 

           “เฟร็ดๆ ๆ ๆ
           “หืม??”
           “เธอเป็นอะไรรึป่าวน่ะ   เห็นเงียบๆ ไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ”  เฮอร์ไมโอนี่ผลักเขาจนหลุดออกมาจากอ้อมกอด  ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะเบาๆ ที่หน้าผากของร่างสูง
           “หืม   มีไข้ด้วยนี่  ยังไม่หายแท้ๆ ออกมานั่งที่ห้องนั่งเล่นแบบนี้ตั้งแต่ค่ำเลยใช่มั้ย  ไม่ไหวเลยเธอเนี่ย!!”  เฮอร์ไมโอนี่ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ  ก่อนจะผละออกไปจากเขา
            เฟร็ดเอื้อมไปคว้ามือของร่างบางไว้   และดึงเธอเข้ามาเบาๆ ก่อนจะจุมพิตลงบนริมฝีปากนุ่มของเธออย่างอ่อนโยน
            “ เฟร็….!!”   เฮอร์ไมโอนี่ขืนตัวออกอย่างสุดกำลังแต่ เฟร็ดกดท้ายทอยเธอเข้ามาทำให้ริมฝีปากเขา และเธอแนบสนิทกันมากขึ้น
           ร่างบางเริ่มหมดเรี่ยวแรงขัดขืน   ในสมองก็กำลังคิดอย่างหนักว่าเกิดอะไรขึ้นกับชายตรงหน้าที่อยู่ๆ ก็ดึงเธอเข้ามาจูบแบบนี้
          ‘เขาเป็นอะไรของเขากัน  เกิดบ้าอะไรขึ้นมาเนี่ย  และทำไมฉันถึงได้ยอมเขาง่ายๆ แบบนี้ล่ะ!!

          แต่ถึงแม้จะคิดเช่นนั้นก็ไม่สามารถต่อต้านความต้องการภายในจิตใจได้  ราวกับเธอรอคอยความรู้สึกแบบนี้จากเขามาแสนนาน    เมื่อความอ่อนโยนค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเร่าร้อน  เฮอร์ไมโอนี่ซึ่งอ่อนประสบการณ์กว่าเธอพยายามสนองจูบเขาแบบไร้เดียงสาทำให้ร่างสูงเผลอหัวเราะเบาๆ  ในลำคอกับความน่ารักของเธอ
          “ฟะ  เฟร็ด  พอ   พอเถอะฉันหายใจไม่ออกนะ..”   เฮอร์ไมโอนี่พูดเบาๆ  ผ่านริมฝีปากบางของชายหนุ่มตรงหน้า  เฟร็ดค่อยๆ ผละออกจากริมฝีปากอวบอิ่ม  อย่างอ้อยอิ่งและเสียดาย    แต่หน้าผากทั้งสองยังสัมผัสกัน   เฟร็ดสบตาร่างบางอย่างลึกซึ้ง เธอมองตอบเขาด้วยแววตาสับสน    ก่อนจะผละออกไปจากอ้อมกอดเขาและเดินขึ้นห้องไป….

           เมื่อร่างบางเดินลับสายตาไปแล้ว  เฟร็ดทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง   เขาเอามือกุมศีรษะตัวเองอย่างสะกดอารมณ์  ที่พรั่งพรูออกมา พร้อมกับคำถามจากส่วนลึกภายในใจมากมาย… 
    ‘ตั้งแต่เมื่อไหร่นะที่ฉัน  ไม่ได้มองเธอด้วยสายตาที่ใช่มองจินนี่ 
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันหวั่นไหวกับความ อ่อนโยน’ ของเธอ
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันต้องการเธอมาอยู่ในอ้อมแขนว่างเปล่าของฉัน
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันคิดว่าริมฝีปากของเธอช่างหอมหวานเหลือเกิน
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉันผิดคำสัญญาจะช่วยให้รอนสมหวังกับเธอ
    ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ฉัน… อยากกอดเธอไว้จนจวบสิ้นลมหายใจ
    ของวาระสุดท้ายที่ใกล้เข้ามา…. เธอคงไม่มีวันรู้เลย

           3 day later
           ขณะที่เฟร็ดกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ    อย่างไม่รู้จะทำอะไรไปมากกว่านี้
           สองวัน
กว่าแล้ว  ที่เขาไม่ได้พูดคุยกับเธอ แม้จะเดินสวนกัน  อ่านหนังสือห้องเดียวกัน   ทานข้าวด้วยกันบ้างแต่เธอก็เอาก้มหน้าก้มตาไม่แม้แต่จะสบตาเขาเลยซักนิด แน่นอนเธออาจจะโกรธเขาก็ได้    เป็นใครเจอเหตุการณ์แบบนั้นเข้าก็ต้องขวัญเสียเป็นธรรมดา  เขาเริ่มรู้สึกเสียใจกับการกระทำของตัวเองขึ้นมาซะแล้ว
           3 วันแล้ว   ที่เมแกนยังไม่กลับมา เฟร็ดเริ่มร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก  ขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆ  ในห้องหนังสืออยู่นั่น  
         
           ป๊อป!!
           เอลฟ์แก่ประจำบ้านเพฟเวอร์เรลล์   ก็มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา   ก่อนจะโค้งเบาๆ  และเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอิดโรย  เหมือนกับร่างกายของมันที่ตอนนี้มีบาดแผลสาหัสอยู่ทั่วทั้งตัว
           “คุณ  คุณหนูวีสลี่ย์…”   เอลฟ์แก่ค่อยๆ  เดินโซเซมาหาเขาก่อนจะล้มลง
           “เกิดอะไรขึ้น!!”    เฟร็ดตกใจวิ่งเข้าไปประคองร่างเอลฟ์ตัวนั้น  ก่อนจะเอามือปาดเลือดที่หน้าผากของมันออกอย่างแผ่วเบา
           “นะ  นายหญิงเมแกนตายแล้ว…”    เอลฟ์แก่แน่นิ่งไปก่อนที่ทั้งห้องจะตกอยู่ในความเงียบ   เอลฟ์ตัวนี้ตายแล้ว!

           เฟร็ดมองเอลฟ์ในอ้อมกอดด้วยแววตาเศร้าสะเทือนใจ  เขาอุ้มเอลฟ์  ขึ้นจากพื้นก่อนจะนำร่างของมันไปวางบนโซฟาห้องนั่งเล่น  พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นก้อนกระดาษในมือของมัน  เขาคลี่กระดาษออก  และพบกับข้อความบางอย่างถึงเขา

         ‘ถึงผู้หยุดยั้งจอมมาร   เมื่อเธอได้อ่านข้อความนี้ฉันก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว   ตอนนี้จอมมารกำลังพลิกแผ่นดินตามหา เครื่องราง  อย่างสุดกำลัง  เธอต้องเร่งมือแล้ว   สิ่งที่เธอต้องทำฉันได้บอกไปแล้ว   เครื่องรางทุกชิ้นจะเปล่งแสงเรียกหากัน  พวกเธอจะหามันพบแน่นอน  และสุดท้ายจงเชื่อมั่น  พยายามอย่างถึงที่สุด  เธอทั้งสองคน   เพียงแค่เธอสองคนเท่านั้น!!

         ปล.  ฉันขอมอบสมบัติส่วนตัว  และสมบัติของตระกูลเพฟเวอร์เรลล์  ให้นายเฟร็ด  วีสลี่ย์  และ นางสาว เฮอร์ไมโอนี่  เกรนเจอร์  เป็นผู้สืบทอดสมบัติและคฤหาสน์เพฟเวอร์เรลล์  สืบทอดต่อไป
                                                                  เมแกน   เพฟเวอร์เรลล์ 
                                                                    ผู้ก่อตั้งภาคีรุ่นแรก

          เฟร็ดลดกระดาษในมือลง  แววตาคุกกรุ่นไปด้วยแรงโทสะ  ที่มีต่อจอมมาร  หลายชีวิตต้องถูกสังเวยลงเพราะความบ้าในอำนาจของโวลเดอมอร์  รวมถึงดัมเบิลดอร์  และจอร์จที่ต้องมาบาดเจ็บสาหัส  ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
          ร่างสูงเดินขึ้นชั้นบนของคฤหาสน์ก่อนจะมาหยุดยืน  ที่หน้าห้องของเฮอร์ไมโอนี่อย่างชั่งใจเพราะกลัวจะมองหน้าเธอไม่ติด  ก่อนจะเคาะประตูแรงๆ 2- 3 ครั้ง   แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับมา   เฟร็ดลองหมุนลูกบิดประตูพบว่ามันไม่ได้ถูกล็อกอยู่
          “ฉันขออนุญาตนะ…”
          เมื่อเปิดเข้ามาภายในห้องนอนที่ตกแต่งแบบผู้หญิง   แสงจากเตาผิงที่ยังติดอยู่ทำให้เห็นร่างของหญิงสาวผมสีน้ำตาลนอนหายใจอย่างสม่ำเสมออยู่บนเตียงขนาดใหญ่    เฟร็ดเดินเข้ามาใกล้เธอและนั่งลงบนเตียง  ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มของเธอ   และมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยน..
          ‘ฉันจะทำยังไง   ฉันทรยศต่อน้องชายของตัวเอง  แต่ฉันก็ไม่อาจหยุดยั้งความรู้สึกภายในใจที่มีต่อเธอ   แม้จะหลอกตัวเองขนาดไหน   แต่ความจริงก็คือฉันต้องการเธอ  เฮอร์ไมโอนี่

          เฟร็ดละมือออกจากแก้มของร่างบางตรงหน้าก่อนจะเอามือทั้งสองข้างมากุมหน้าอย่างข่มอารมณ์เศร้าหมองอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน   ราวกับไม่ใช่ตัวเอง  และความรู้สึกต้องการบางอย่างที่เกิดขึ้นภายในใจ   จนต้องถอนหายใจออกมาแรงๆ  เพื่อไล่ความฟุ้งซ่าน   ก่อนจะลุกขึ้นออกจากห้อง
          แต่เสียงงึมงำไม่ได้ศัพท์  ของร่างบางบนเตียงทำให้เขาเดินกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
          “เฟร  เฟร็ด”    ร่างบางรับรู้ถึงการมาของเขา
          “….”
          “นั่นเธอรึป่าว??”  เธอยันตัวขึ้นจากเตียง   ก่อนจะเดินลงจากเตียงไปหาเขา
          พลั๊ก!!
          มือบางผลักร่างสูงอย่างแรง
          “เข้ามาทำไม!!  จะแกล้งอะไรฉันอีกฮะ!!!!”    เฟร็ดไม่ปัดป้องหรือตอบโต้  เขายังยืนอยู่ที่เดิมให้เธอทำโทษกับความผิดที่เขาได้ก่อไว้
          “เมแกนตายแล้ว….”    เฮอร์ไมโอนี่ชะงักและเปลี่ยนจากความโกรธเป็นตกใจระคนเสียใจทันที
          “ทำไม…?”
          “ฉันก็ไม่รู้    เอลฟ์มาบอกฉันได้สักพักและฉันก็ขึ้นมาหาเธอ…”   เฟร็ดยื่นกระดาษให้เฮอร์ไมโอนี่   เธอรับมันมาอ่านก่อนจะขยำและปาลงพื้นอย่างแรง
          “เราจะทำยังไงกันต่อ!!”    เฮอร์ไมโอนี่มีท่าทีที่ทั้งโกรธและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด
          “เมื่อเธอพร้อม เราจะออกตามหาเครื่องรางกันทันที!!”  
          “ไม่ได้ขึ้นอยู่กับฉัน   เธอต่างหากแผลยังไม่หายดีเลยอย่ามาทำอวดเก่งนะเฟร็ด!!
          “แต่!!
          “ไม่มีแต่นะเฟร็ด   ฉันจะเป็นคนตัดสินใจเองว่านายพร้อมจะเดินทางตอนไหน  และแน่นอน   ตอนนี้….นายควรจะไปนอนได้แล้ว!!!”   ร่างบางดันหลังเขาให้ออกไปจากห้องนอนของเธอทันทีที่พูดจบ    แต่ขณะที่ประตูกำลังจะปิด
          “ขอโทษ…”
          “…??”
          “กับทุกเรื่องที่ทำให้เธอไม่พอใจ  ขอโทษ    ขอโทษที่จูบเธ…”
          “พะ  พอแล้ว   ไปนอนซะ!!”    ก่อนจะปิดประตูเสียงดัง
          เฟร็ดเดินคอตกออกมาจากหน้าห้องของเฮอร์ไมโอนี่   ก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน   เฮอร์ไมโอนี่ปิดประตูเสียงดัง   ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำเพราะความเขินอายที่เฟร็เอ่ยปากขอโทษเรื่องจูบ   ก่อนจะหันหลังพิงประตูด้วยหัวใจที่เต้นแรง  
        ‘นายไม่จำเป็นต้องขอโทษเลย  เพราะ… ฉันก็ต้องการมันเหมือนกัน

          “จะผิดมั้ย    ถ้าฉันจะคิดไปเองว่านายก็คิดเหมือนกันกับฉันน่ะ….เฟร็ด



......................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น