EP.29
ฝันไป..
เฮอร์ไมโอนี่กระพริบตาปริบๆ เพื่อปรับสายตาให้ชัดขึ้น ก่อนจะตกใจกรี๊ดออกมาเสียงดัง เมื่อเห็นใบหน้าของบรรดาเพื่อนๆ กำลังยืนมุงเธออยู่
“ให้ตายเถอะ!!! พวกนายทำบ้าอะไรเนี่ย!!” เฮอร์ไมโอนี่ลุกพรวดขึ้นมานั่งกุมศีรษะด้วยความปวดแทบจะระเบิด ที่เริ่มก่อตัวขึ้นอย่างร้ายกาจเมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้…ฉันฝันไปรึไงนะ…?
เธอหันไปหามอลลี่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ โซฟาที่ถูกเสกขึ้นมาเพื่อเฮอร์ไมโอนี่โดยเฉพาะ
“เกิดอะไรขึ้นกับฉันคะ?”
“เธออยู่กับเฟร็ดร้องไห้จน …สลบไป” มอลลี่มองเธอด้วยแววตาที่แสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างไม่ปิดบัง
“นานแค่ไหนคะ? ฉันหลับไปนานแค่ไหน..?”
“ชั่วโมงกว่าจ่ะ..”
“เฟร็ดล่ะคะ เฟร็ดอยู่ไหน!?” ร่างบางลุกขึ้นพรวดพราด จนเกิดอาการเซเล็กน้อย แต่เธอก็ฝืนตัววิ่งไปยังห้องโถงใหญ่ และก็เจอเข้ากับขบวนขนร่างไร้วิญญาณ เพื่อนำพวกเขาไปประกอบพิธีสำหรับผู้เสียชีวิตต่อไป..
“เฟร็ดล่ะ!! …เขาอยูไหน!!!!!” ร่างบางอาการร้อนรนวิ่งเข้าไปคว้าแขนของเพื่อนนักเรียนฮอกวอตส์ร่างกำยำที่อยู่ในขบวน ชายผู้นั้นชี้ไปที่เปลด้านหลังที่เขากำลังหาบอยู่ด้วยใบหน้าสลด
“วางเดี๋ยวนี้ …ได้โปรดวางเค้าลงเดี๋ยวนี้!!!!”
เฮอร์ไมโอนี่ขอร้องให้คนหาบเปลวางเฟร็ดลง แต่กลับดูเหมือนออกคำสั่งมากกว่า เธอเข้าไปกอดร่างที่แน่นิ่ง และเย็นเฉียบก่อนจะร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ
“บอกฉันที …ว่าฉันฝันไปใช่มั้ย? ฮือๆๆ”
“…”
“เธอจะกลับมาหาฉันไม่ใช่หรอ …เราจะอยู่ด้วยกัน ฮือๆๆๆ”
“ใช่ ...” เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้นมองชายตรงหน้าด้วยแววตาตื่นตกใจ เมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เผยบนใบหน้าคมคายของเขา
“…เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป”
“เฟร็ด!!!” ร่างสูงกอดเฮอร์ไมโอนี่ บนเปลท่ามกลางความตื่นตะลึงของบรรดาเพื่อนๆ และเสียงเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น พร้อมกับคนในครอบครัววีสลี่ย์ และเพื่อนๆ กองทัพดัมเบิลดอร์ที่เดินเข้ามาเห็นภาพตรงหน้าก็ต่างชะงักมองค้างมาที่ชายร่างสูงในเปลผ้าใบทันที!!
“เคร้าท์เมอร์ลิน ดูสิลูกยังไม่ตาย!!” อาเธอร์อ้าแขนให้ภรรยา ทั้งสองกอดกัน ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาลูกชายที่บัดนี้ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมากแล้ว มอลลี่เข้ามากอดเฟร็ดก่อนจะผละไป และตามด้วยพี่น้องตระกูลวีสลี่ทั้ง 7 คนที่เข้ามากอดเขาจน แลดูคล้ายลูกบอลลายวีสลี่ย์เหลือเกิน
และก่อนที่เฟร็ดจะตายไปจริงๆ พวกเขาก็ผละออกมายืนอยู่ข้างๆ กัน จินนี่และจอร์จผยุง เฟร็ดขึ้นจากเปลผ้าใบ เพื่อนๆ ต่างผลัดเข้ามากอดเขาอย่างดีใจ
“ฉันดีใจจริงๆ เฟร็ดที่นายยังอยู่ตรงนี้!!”
“ขอบใจ ฉันก็เหมือนกันริชาร์ด”
“ยินดีด้วยนะเฟร็ด!!”
“เช่นกัน!” เฟร็ดพยายามชะโงกหน้าผ่านกลุ่มเพื่อนๆ ตรงหน้าเพื่อมองหาผู้หญิงผมสีน้ำตาล เมื่อกี้เธอยังยืนอยู่ข้างๆ เขาอยู่เลย…
จู่ๆ ทุกคนในบริเวณนั้นก็ตีวงออกห่างจากเฟร็ด และตรงหน้าเขาเผยให้เห็นผู้หญิงร่างบางกำลังยืนมองมาที่เขาจากอีกฝั่งหนึ่งของโถงทางเดิน ผมของเธอเงางาม สลวยเมื่อต้องกับแสงแดดดูราวกับเส้นไหมเลอค่า ดวงตากลมสวยสีน้ำตาลเข้ม มีประกายแวววาวของน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา และริมฝีปากอวบอิ่มที่กำลังส่งยิ้มอย่างอ่อนโยน …มาให้เขา
เฟร็ดวิ่งเข้าไปกอดเฮอร์ไมโอนี่และยกตัวเธอขึ้นจนขาทั้งสองข้างลอยอยู่เหนือพื้น หน้าผากของทั้งสองสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา
“ฉันรักเธอ …เฮอร์ไมโอนี่”
“ฉันก็รักเธอ..”
และทั้งคู่ก็มอบจุมพิตที่แสนหวานให้กันและกัน ท่ามกลางเสียงปรบมือโห่ร้องด้วยความยินดีอย่างกึกก้อง รอนมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาเจ็บปวดก่อนจะค่อยๆ ถอยหลังออกมาจากตรงนั้นและวิ่ง วิ่งไปให้ไกล พอที่จะทำให้เขา… สามารถร้องไห้ออกมา โดยที่ไม่มีใครเห็น…!!
อีกด้านหนึ่งของโถงทางเดิน
ชายผมดำกับแว่นหนาเตอะของเขา กำลังยืนหันหน้าออกจากระเบียงเพื่อรับลมที่พัดเข้ามาปะทะร่างของเขาราวกลับ ต้องการจะให้มันชำระล้างความไม่สบายใจของเขาไปจนหมดสิ้น..
“มาอยู่ที่นี่เอง…” สาวน้อยผมแดงเดินมายืนข้างๆ เขาก่อนจะเอ่ยทำลายความเงียบ ชายผมดำหันมาหาเธอด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ขอโทษที ฉันกำลังคิดอะไรเพลินๆ น่ะ”
“เธอจะทำยังไงต่อไปหรอ หมายถึง ในอนาคต..?” แฮร์รี่หันมาสบตากับจินนี่อย่างมีความหมาย
“ฉันจะเป็นมือปราบมาร …นั่นเป็นความฝันของฉัน แล้วเธอล่ะ?”
ก่อนจะหันกลับไปสนใจทิวทัศน์เบื้องหน้าอีกครั้ง
“ฉันอยากเป็นซิกเกอร์หญิงที่เก่งที่สุดในโลก!!”
“ฮ่าๆๆๆ แน่นอนเธอทำได้อยู่แล้ว” แฮร์รี่มองลึกลงไปในแววตาสีฟ้าสดใสของร่างบางตรงหน้า อย่างหลงใหลไปกับเสน่ห์ที่ผู้ชายทุกคนต่างทำได้เพียงฝันถึง แต่ตอนนี้เธออยู่ตรงหน้าเขา ผู้หญิงที่เขารักเธออยู่กับเขาตรงนี้…
แฮร์รี่โน้มหน้าเข้ามาใกล้เธอ และจุมพิตอย่างแผ่วเบา หากแต่เนิ่นนานท่ามกลางสงครามที่สิ้นสุดลง และการเริ่มต้นของฤดูหนาวที่จะมีแต่ความสงบสุขตลอดไป…
.........................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น