EP.21
ไม่คาดฝัน
แกรก! แกรก!! กุกกัก!! กุกกัก!!
เฟร็ดค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เมื่อถูกปลุกให้ตื่นด้วยเสียงบางอย่าง แต่กลับต้องหลับตาลงทันทีเมื่อเจอเข้ากับแสงแดดแรงที่สาดเข้ามาภายในห้อง เขาค่อยๆ ปรับสายตาให้ชินกับแสงก่อนจะยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน สายตาก็ปราดไปเจอเข้ากับผู้หญิงผมน้ำตาลสลวย กำลังรื้อค้นของขวัญในกล่องอย่างสนุกสนาน!
“ทำอะไรแต่เช้าน่ะเฮอร์ไมโอนี่!??” เฟร็ดเดินงัวเงียลงมานั่งคุกเข่า ข้างๆ ร่างบาง เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา ก่อนจะมอนิ่งคิสให้เฟร็ดไป
“ขอโทษที่ทำให้ตื่นนะ ฉันอยากรู้ว่ามีใครให้อะไรมาบ้าง” เฮอร์ไมโอนี่พูดด้วยน้ำเสียง และแววตาเป็นประกายเหมือนเด็กๆ เฟร็ดนั่งลงซ้อนด้านหลังเธอ และช่วยแกะของขวัญที่เหลือออกดูกันอย่างสนุกสนาน
“เฟร็ดดี้!!! ….ให้ตายสิ! ดูๆๆๆๆ มีคนให้หนังสืออักษรรูณโบราณมาด้วย”
“ฮ่าๆๆๆๆ เธอนี่จริงๆ เลยนะเห็นหนังสือเป็นไม่ได้ จากใครส่งมาล่ะ?”
“จาก …เจสสิก้า!!” เฟร็ดยิ้มให้กับท่าทีร่าเริงของเธอ และเกยคางลงบนไหล่เธอในมือก็แกะกล่องของขวัญไปเรื่อยๆ จนหมด
“หมดแล้วหรอ?”
“นั่นสิ …เอ๊ะ!! นั่นไง เหลืออีกกล่องมันหลบเข้าไปในเตียงน่ะ” เฮอร์ไมโอนี่ลุกออกมาตักของเฟร็ด และเอื้อมมือเข้าไปใต้เตียง หยิบของขวัญกล่องสุดท้ายออกมา เฮอร์ไมโอนี่เปิดมันออกอย่างรวดเร็วและก็เผยของข้างในออกมา
“เฟร็ดดี้!! นี่มัน!??” ล็อกเก็ตของเธอและวัตถุในมือส่องแสงสีขาว
นวลตาวูบวาบราวกลับหยอกเย้ากัน!
“ผ้าคลุมล่องหน!! จากใครกัน?” เฟร็ดรื้นกล่องดูอีกครั้ง ก็พบกับโน้ต
แผ่นเล็กๆ เขียนด้วยลายลายมือสวยงามเป็นระเบียบ เขาหยิบมันขึ้นมาอ่านด้วยหัวใจที่เต้นอย่างระทึก
‘ตั้งแต่เจ้าช่วยข้าจากมังกรยักษ์ในวันนั้น ข้าก็อยากตอบแทนในความกล้าหาญของเจ้า ในตอนแรกข้าจะยกมันให้กับลูกข้าในอนาคตไว้มรดก แต่คิดดูอีกที จะดีกว่าถ้าข้ายกมันให้กับผู้มีพระคุณ มันคงจะมีประโยชน์กับเจ้าบ้างไม่มากก็น้อย มันสำคัญต่อข้า…ดูแลมันให้ดีหลานรักทั้งสอง
ลาเฟอัส
ท่าอา/ อาจารย์ของพวกเจ้า’
“เฟร็ดดี้!! เราทำสำเร็จแล้ว อีกเพียงชิ้นเดียวเราจะได้กลับบ้า
แล้ว!!”
“วู้!! ให้มันได้อย่างนี้สิ!” ทั้งสองคนโผเข้าหากันก่อนจะเหวี่ยงตัวหมุน
ไปรอบๆ ห้องด้วยความดีใจ…
ณ คฤหาสน์เพฟเวอร์เรลล์
ทั้งสองรับประทานอาหารเช้า แสร้งเป็นพูดคุยเรื่องฮันนีมูนที่กำลังจะถึงในวันพรุ่งนี้อย่างออกรส พ่อแม่ของฝ่ายชายที่มาพักชั่วคราวยิ้มให้กัน กับนางนิมฟาร่าอย่างปลื้มใจ แต่หาได้รู้ไม่ว่าการพูดคุยเรื่องฮันนีมูน เป็นโค้ดลับถึงการออกเดินทางตามหาเครื่องรางชิ้นต่อไป…
ก๊อกๆๆ
หญิงวัยกลางคนเงยหน้าขึ้นมาจากกองรายการขนส่งสินค้า เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา..”
สิ้นเสียงประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นลูกสาวของนางที่เดินเข้ามาภายในห้องทำงานอย่างเก้ๆ กังๆ เมื่อเห็นบรรยากาศภายในที่เต็มไปด้วยม้วนกระดาษมากมาย ลอยอยู่เหนือโต๊ะทำงานของผู้เป็นแม่เต็มไปหมด
“ลูกนั่นเอง ลมอะไรหอบลูกมาที่ห้องนี้?”
“ท่านแม่พอจะมีเวลาว่างซักเดี๋ยว ..มั้ยคะ?”
“อ๋อ ได้สิแม่ว่าง มีอะไรหรอจ๊ะ?” นางโกหกก่อนจะผายมือไปที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเธอ และเฮอร์ไมโอนี่ก็นั่งลงหมิ่นๆ
“คือ ลูกอยากไปเยี่ยมคฤหาสน์ของท่านอาแคดมัสน่ะค่ะ….” เมื่อเห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่ที่มองมาที่เธอด้วยความสงสัยว่า ทำไมลูกสาวของนางจู่ๆ เกิดอยากไปคฤหาสน์ร้างนั่น
เฮอร์ไมโอนี่จึงรีบพูดขึ้นมาด้วยเหตุผลที่จะเอาตัวเองให้รอดในตอนนี้ได้
“เอ่อ.. ลูกกับท่านพี่เฟริเซียส อยากไปดูทำเลของคฤหาสน์นั่นว่าพอจะซ่อมแซมได้หรือไม่ พวกเราเห็นสมควรว่าจะเปลี่ยนคฤหาสน์นั่นให้เป็นที่รับรองนักท่องเที่ยวค่ะ”
“อืม เป็นความคิดที่ไม่เลว ไหนลูกลองอธิบายถึงโครงการที่ว่าให้แม่ฟังหน่อยซิ”
“เอ่อ ….ลูกจะปรับปรุงมันให้เป็นห้องรับรองแขก และบริการอำนวยความสะดวกแก่พ่อมด แม่มดที่เหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล และต้องการที่พักที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขา ข้างในนั้นยังมีกิจกรรมต่างๆ ตามความถนัดของพวกเขาแต่ละคน …ก็ประมาณนี้แหละค่ะ”
“เยี่ยมไปเลย!! แล้วลูกจะไปที่ไอซ์แลนด์เมื่อไหร่?”
“คฤหาสน์ของท่านอาอยู่ที่ไอซ์แลนด์หรอคะ!??”
“ใช่แล้ว ถ้าจำไม่ผิดแม่คงเคยเล่าให้ลูกฟังแล้วนะ..?” แววตาเฮอร์ไมโอนี่ไหววูบด้วยความตกใจเพียงนิดเดียวก่อนจะกลับมาเป็นปกติ
“เอ่อ สงสัยลูกจะลืมน่ะค่ะ ช่วงนี้ยุ่งๆ ไปหมด ฮ่าๆๆ” ผู้เป็นแม่ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร เฮอร์ไมโอนี่ก้มหน้าอย่างใช้ความคิด ว่าเธอจะหลอกถามเส้นทางจากนาง อย่างไรดี
นิมฟาร่า เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงกระแอมของผู้เป็นลูก
“ว่าไงจ๊ะ?”
“ท่านแม่ช่วยเสกกุญแจนำทางให้ลูกได้มั้ยคะ?... เดินทางไกลขนาดนั้นลูกว่าต้องเหนื่อยมากๆ เลย”
“แน่นอนจ่ะลูกรัก เดี๋ยวแม่จะให้เอลฟ์นำมันไปให้ลูกทีหลัง” เฮอร์ไมโอนี่เผยรอยยิ้มออกมา ก่อนจะรีบหุบยิ้มเมื่อสายตาของผู้เป็นแม่มองมา ก่อนที่ร่างบางจะโค้งให้นาง และวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่เอาน่า ฉันไม่หิวนะ..!!”
“น่านะ ท่านพี่เฟริเซียส ข้าเห็นท่านหน้าซีดๆ ท่านควรจะดื่มน้ำส้มคั้นสดบำรุงหน่อยนะคะ” เฟร็ดพยายามปัดป้องและเดินหนี แต่เอลิเซียก็เดินตามเขาไม่หยุดตั้งแต่เช้า เขาเดินหนีไปเรื่อยๆ จนเห็นร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่เลี้ยวตรงหัวมุมห้อง เดินมาหาเขาด้วยแววตาสงสัยเมื่อเห็นใบหน้าออดอ้อนของ เอลิเซีย และใบหน้าที่ราวกับจะถูกกรอกยาพิษของคนรักเธอ
เฮอร์ไมโอนี่มองปราดไปที่แก้วน้ำส้มในมือ ของผู้เป็นน้องสาวก่อนจะเข้าใจถึงเหตุการณ์ตรงหน้าทันที ร่างบางเดินเข้าไปหาเอลิเซีย และกระแทกไหล่เธออย่างแรง จนแก้วน้ำส้มในมือหล่นลงมาแตกกระจาย
“อุ๊ย! ตายจริง เอลิเซียน้องพี่เจ้าเป็นอะไรหรือป่าว?” เฮอร์ไมโอนี่ทำทีเป็นเข้ามาประคองเอลิเซีย เธอมองหน้าพี่สาวด้วยแววตาเจ็บใจ ก่อนจะกระแทกเท้าปึงปังออกไปจากโถงทางเดินนั้นทันที…
ฟู่ๆ ฟู่ๆๆ
น้ำส้มหกกระจายลงบนพื้นเริ่มเกิดฟองสีขาวฟอดขึ้นมาบนพื้น ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเข้าใจ มันไม่ใช่เพียงน้ำส้มธรรมดา …แต่มันเป็นน้ำส้มผสมยาเสน่ห์ชนิดร้ายแรง!
“เกือบไปแล้วนะเฟร็ดดี้”
“ขอบคุณมากที่เธอเข้ามาช่วยไว้ทัน ไม่งั้นฉันคง…!!” เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบางๆ กับท่าทางขยาดๆ ของเขา ก่อนจะจุงมือเฟร็ดเข้าห้องพักของพวกเขาทันที
“นี่เฮอร์ไมโอนี่ …มันยังกลางวันอยู่เลย ฉันไม่คิดว่าเธอ..?!”
“มันอยู่ที่ไอซ์แลนด์ …คฤหาสน์ของท่านอาแคดมัสอยู่ที่นั่น!!”
“แล้วเราจะไปกันยังไง? หายตัวหรอ ไม่ใช่ใกล้ๆ เลยนะ”
“ฉันขอให้ท่านแม่เสกกุญแจนำทางให้แล้วล่ะ และบอกเธอไปว่าพวกเราวางแผนจะเปิดโรงแรมที่ใหม่โดยใช้คฤหาสน์ของท่านอา แต่เราอยู่ในช่วงวางแผนจึงอยากไปดู ทำเลก่อน…อะไรประมาณนี้” เฟร็ดปรบมือเบาๆ ให้กับความฉลาดของเธอที่เขาคาดไม่ถึง
ก๊อกๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนจะถูกเปิดออกด้วยคาถาจากไม้กายสิทธิ์
“ท่านหญิงนิมฟาร่า ให้นำมาให้คุณหนูเจ้าค่ะ” เอลฟ์ตัวน้อยส่งกล่องไม้ขนาดเล็กมาให้เธอก่อนจะหายตัวไป
เฮอร์ไมโอนี่กลับมาที่เตียง และเปิดมันออก ภายในกล่องไม้มีปากกาขนนกเก่าๆ อยู่ด้ามหนึ่ง เฮอร์ไมโอนี่ปิดมันลงอย่างแผ่วเบา
“พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันแต่เช้า …ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเราไปทำอะไร!”
“แน่นอน และเมื่อเรารวบรวมของทุกชิ้นจนครบ …เราก็จะได้กลับบ้าน!!”
“สู้!!” เฮอร์ไมโอนี่ชูกำปั้นขึ้นมา ด้วยความฮึกเหิมราวกับจะไปออกรบ เฟร็ดมองภาพตรงหน้า และหัวเราะออกมาเสียงดัง ก่อนจะหงายหลังลงไปนอนกับพื้นเพราะฝีเท้าพิฆาตของเฮอร์ไมโอนี่…!!
ทั้งสองไม่รอช้าออกเดินทางด้วยกุญแจนำทาง ในตอนเช้าตรู่ทันทีโดยไม่ได้บอกใคร
ทั้งสองถูกแรงเหวี่ยงมหาศาล ก่อนร่างของพวกเขา จะหายไปพร้อมกับปากกาขนนก และในห้องก็กลับสู่ความเงียบอีกครั้ง…
เท้าของทั้งสองแตะลงบนพื้นหญ้าสีเหลืองแห้งกรอบ ตรงหน้าพวกเขาคือคฤหาสน์เก่าแก่ มีเถาไอวี่เลื้อยอยู่โดยรอบดูน่าหดหู่ใจอย่างที่สุด เฟร็ดเห็นแววตาหวาดกลัวที่ออกมาจากคนรัก เขากุมมือเธอไว้แนบอก
เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้ามองเขาด้วยความสงสัย แต่พอเห็นแววตาของคนรักเธอก็รู้สึกดีขึ้น
“ไม่ต้องกลัว ฉันอยู่ตรงนี้…ไปกันเถอะ!”
พวกเขาผลักประตูบานใหญ่เข้ามาในคฤหาสน์ ที่ภายในมีข้าวของเครื่องใช้เก่าๆ มากมายแม้ภายนอกจะผุพัง แต่ภายในกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี…?!
“มีเอลฟ์อยู่มั้ย?”
“มีใครอยู่บ้างมั้ยคะ?”
ทั้งสองกวาดสายตาไปรอบๆ ห้อง และเอลฟ์แก่ประจำคฤหาสน์ก็ปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาในชุดผ้าปูโต๊ะสีดำ
“ยินดีต้อนรับขอรับ คุณหนูตระกูลเพฟเวอร์เรลล์ ผู้สูงส่ง …ของซิลเวอร์” มันคำนับพวกเขาจนจมูกแทบแตะพื้น
“ลุกขึ้นเถอะ …ซิลเวอร์”
“โอ้! ขอบคุณคุณหนู ขอบคุณ!! มีอะไรให้ซิลเวอร์ รับใช้ขอรับ…”
“ที่นี่มีสิ่งที่พวกเราต้องการ หินชุบวิญญาณ …มันอยู่ที่นี่รึป่าว ซิลเวอร์?!” เฮอร์ไมโอนี่ถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง
“ไม่มี…”
“หา!!? ว่ายังไงนะ?”
“สิ่งที่พวกคุณตามหา ที่นี่ไม่มีหรอกขอรับ..” ซิลเวอร์ก้มหน้าเอามือประสานกันอย่างเกรงๆ
“มันอยู่ที่ไหน??” เฮอร์ไมโอนี่เดินเข้าไปหาเอลฟ์ที่สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวที่พึงกระทำต่อเจ้านาย
“อยู่ …มันอยู่กับเขาตอนนี้ และตลอดไป..”
“ที่ไหน??” ความอดทนเริ่มสิ้นสุดเฟร็ด ตะหวาดเสียงใส่เอฟล์ที่พยายามจะปกปิดถึงสิ่งที่เขาตามหา จนใบหูของมันลู่ลงและมือกุมศีรษะอย่างหวาดกลัว
“เฮ้อ …ที่หลุมศพ …ในก็อดดริก ฮอลโลว์” สิ้นเสียงของเอลฟ์ก็พลันเกิดเสียงแส้ฟาดปะทะอากาศอย่างแรง และร่างทั้งสองก็หายไปเหลือเพียงเอลฟ์ที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นอย่างกล้าๆ กลัว
..........................................................................................
คฟหาสน์ แคดมัส เพฟเวอร์เรล : เจ้าของ หินชุบวิญญาณ
คฟหาสน์ แคดมัส เพฟเวอร์เรล : เจ้าของ หินชุบวิญญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น