HOME........... แนะนำนิยาย.......... Gallery............VIDEO........... ติดต่อเรา

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

EP.5 Deathly Hallows เราคือ..นายแห่งยมทูต เฟร็ด/เฮอร์ไมโอนี่


EP.5

โดนจับตัว




           เฟร็ดลืมตาช้าๆ   และพยายามยันตัวขึ้นมาจากพื้นหินที่เย็นชื้น   เขาพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในห้องมืดๆ ที่หนาวเย็นและเหม็นอับ    เขากวาดสายตาไปรอบๆ ห้องที่พื้นมีตะไคร่เกาะอยู่ทั่วทุกมุมห้อง  มันดูคล้ายคุก   ใช่ตอนนี้เขากำลังติดอยู่ในคุกใต้ดิน  เขาสบัดหัวไล่ความง่วงงุน    ก่อนจะลองปะติดปะต่อเรื่องราวคร่าวๆ  ก่อนที่ตนจะมาอยู่ที่นี่    เขาจำได้ว่า…   

         4 hour ago
         หลังจากแยกทางกับจอร์จที่บอกว่า   จะขออยู่เคลียงานที่ร้านก่อนจะไปหาแองเจลิน่าแล้วจะตามไปที่บ้านโพรงกระต่ายทีหลัง   
         “สวัสดีครับมาดาม  ฟิลิปป้า  วันนี้เป็นยังไงบ้าง??”
         “โอ้  เฟร็ด หรือจอร์จนะ เอาเถอะวันนี้ขายไม่ดีเลยขนมร้านฉันสู้ร้านพวกเธอไม่ได้เลยล่ะ”  ก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ชายร่างสูง
         ขณะที่เขาเดินเรื่อยเปื่อยทักทายร้านรวงต่างๆ เป็นกิจวัตอยู่ในตรอกไดแอกอน   และกำลังจะเดินทางไปบ้านโพรงกระต่าย   ก็ชะงักหวนนึกขึ้นได้ว่าลืมหยิบพลุทุกเทศการตามคำบอกของจินนี่       เขาจึงรีบวกกลับไปที่ร้านเกมส์กลวีสลี่ย์ทันที!

         “โอ้  เมอร์ลินมันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย!!!”  เขาทึ้งหัวตัวเองอย่างแรงด้วยความโกรธ  และตกใจ
         เมื่อพบว่ากระจกหน้าร้านของเขา  และแฝดมีร่องรอยแรงอัดของระเบิดจนกระจายเกลื่อนพื้นถนน  และวิ่งเข้าไปในร้านเพื่อสำรวจความเสียหายภายในทันที   ….เขาพบร่างของจอร์จนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้น  เลือดสีแดงสดนองไปทั่วร่างอย่างน่าสยดสยอง 
         “ไม่ๆๆๆ จอร์จจี้  นายต้องไม่เป็นอะไรนะ  ลืมตาสิ!!!!!    เขารีบถลาเข้าไปหาแฝดของตนทันที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีบุคคลที่ 3-4 และ5 หรือมากกว่านั้นดักซุ่มโจมตีเขาอยู่โดยสิ้นเสียงคำสาปสุดท้าย
         “สตูเปฟาย!!!
         ก่อนที่สติของเขาจะดับวูบไป

         ขณะที่เขากำลังอยู่ในห้วงความคิดก็ได้ยินเสียงฝีเท้า   และเสียงคนพูดคุยกันตรงหน้าคุกที่เขาอยู่   ก่อนจะได้ยินเสียงเรียบๆ หากแต่ฟังดูเย็นชาน่าขนลุก
         เฟร็ดไม่อาจจับใจความของคำพูดเหล่านั้นได้เนื่องจากร่างกายที่บอบช้ำจากการถูกคำสาป  ไปหลายคาถาทำให้สภาพของเขาดูคล้ายซอมบี้เข้าไปทุกที   และประตูก็เปิดออกพร้อมกับคนที่เขาจำได้ว่าเป็นผู้เสพความตาย   
2 คนเข้ามาลากตัวเขาออกไปจากห้องขัง
         เฟร็ดขัดขืนสุดกำลังเท่าที่ตอนนี้พอจะมีเหลือ  แต่ก็ถูกตอบโต้ด้วยคำสาปกรีดแทงกลับมาถึง 2 ครั้ง   จนเฟร็ดคอพับทรุดตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง   ผู้เสพความตายทั้งสองยังคงหิ้วปีกเขาอยู่ก่อนที่หน้าคมคายนี้จะลงไปกระแทกกับพื้น   โดยมีผู้เสพความตายอีก 1 ยืนค้ำหัวเขาอยู่อย่างวางอำนาจ ลูเซียส  มัลฟอย
       
          ใช่!!  เขาจำได้แล้วว่าเสียงนุ่มลึกหากแต่ดูเย็นชานั้นเป็นของใครถึงแม้เข้าจะก้มหน้าแต่การแต่งตัวแบบนี้  และไม้เท้ารูปทรงพิลึกในสายตาของเฟร็ด   และแฝดอีกคนเสมอ    ….แต่บัดนี้มันกำลังมาอยู่ปลายคางของเขา  หัวเขาถูกมันงัดขึ้นจนต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของๆ มันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
          เฟร็ดส่งสายตาเดือดดาลและแข็งกร้าวอย่างไม่ยอมแพ้แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่างกายขนาดไหน  และแม้ตนจะตกอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบกว่าก็ตาม
          “วีสลี่ย์  หึพวกทรยศต่อเลือด  เมื่อไม่มีไม้กายสิทธิ์สภาพแกมันก็ไม่ต่างกับไอ้ลูกหมา!!”   
           เฟร็ดพุ่งตัวเข้าใส่ ลูเซียสทันทีที่เขาพูดจบ    จนทำให้เขาหลุดจากการจับกุมของผู้เสพความตายทั้งสอง    เขาผลักลูเซียสเสียหลักล้มลงไปนอนกับพ้นอย่างหมดท่า   ร่างกายที่หนุ่มแน่นกว่าทำให้เขาสามารถต่อยหน้า ลูเซียสได้ถึงสองครั้งก่อนที่เขาจะร้องออกมาด้วยความทรมานรู้สึกแสบร้อนอย่างรุณแรงบริเวณที่หลังหัวก่อนที่ภาพชายผมบลอนด์ตรงหน้าจะค่อยๆ มืดลงอีกครั้ง....


           ทุกคนที่งานเลี้ยงจิตใจไม่อยู่กับตัวโดยเฉพาะนางมอลลี่ ที่ตอนนี้ได้ขอตัวไปเยี่ยมจอร์จที่เซนต์มังโกกับอาเธอร์  
           บิล และเฟลอร์ กลับไปที่กระทรวงอีกครั้งเพื่อหาเบาะแสของน้องชายอีกคนของเขา  ที่บ้านตอนนี้เหลือเพียง จินนี่ แฮร์รี่  เฮอร์ไมโอนี่  และรอนที่ทำท่าจะตามไปสมทบกับพ่อและแม่ของเขา   
           “เดี๋ยวฉันมา!!
           “เธอจะไปไหนไม่ได้   เธอต้องอยู่ที่นี่  เธอทั้งหมด!!   เฟลอร์ บอกว่าให้เขารออยู่ที่บ้านกับเพื่อนๆ     บิลบอกว่าตอนนี้ข้างนอกปั่นป่วนไปหมด  ไม่อยากให้น้องๆ ออกไปไหนมันอันตรายเกินไป  และอาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับ  แฝดทั้งสอง   แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดแต่บิลคิดว่าเป้าหมายของพวกมันคือบุคคลในภาคีทุกคนแน่นอน  และทั้งหมดก็เป็นสมาชิกในภาคีนั่นจึงเป็นเรื่องที่เขากลัว 
           หลังจากที่บิล  และเฟลอร์  ออกไปแล้ว  จินนี่และเฮอร์ไมโอนี่นั่งกุมมือกันบนโซฟาหน้าเตาผิงโดยมีรอนกำลังเดินสังเกตการณ์รอบบ้านและแฮร์รี่ที่กำลังเสกคาถาป้องกันบริเวณรอบบ้าน

           จินนี่มองหญิงสาวข้างกาย  ที่นั่งก้มหน้าเงียบมาได้สักพักแล้ว    เธอรู้ว่าเฮอร์ไมโอนี่รู้สึกเสียใจที่สองแฝดได้รับอันตราย ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันเกิดตัวเองแท้ๆ  จินนี่ก็กังวลไม่แพ้กัน  แต่ก็ไม่อาจเทียบเท่าความรู้สึกของผู้หญิงข้างๆ เธอที่เปรียบเสมือนพี่สาวของเธอได้    เพราะสายของเฮอร์ไมโอนี่ที่แสดงออกมาไม่ใช่ความกลัวที่คนใดคนหนึ่งในภาคีอาจจะถูกลอบทำร้ายอีก  แต่เป็นสายตาของคนสิ้นหวังระคนเสียใจเมื่อได้ยินเรื่องที่คนรักหายตัวไปอย่างงั้นเลยในความรู้สึกของจินนี่

           สายตาซุกซนเหลือบไปเห็นสร้อยล็อกเก็ตบนคอ   เฮอร์ไมโอนี่   สาวผมแดงเอื้อมมือไปสัมผัสมันอย่างแผ่วเบา  จนเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังจมอยู่กับความเศร้าสะดุ้งด้วยความตกใจ และตกใจมาขึ้นเมื่อเห็นสายตารู้ทันของจินนี่
           “พี่เฟร็ดให้พี่มาสินะ…”   
           “เอ่อ   ปะ….”    เธอทำท่าจะปฏิเสธแต่จินนี่ก็พูดสวนขึ้นมาทันที
           “พี่รู้สึกยังไงกับพี่เฟร็ดกันแน่??”    เมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นของสาวน้อยตรงหน้าเธอก็พูดไม่ออก  นั่นสิเรารู้สึกยังไงกับเฟร็ดกันแน่นะ’ เวลาได้ยินชื่อเขาก็รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก  เมื่อถูกจ้องด้วยสายตาซุกซนขี้เล่นคู่นั้นกลับรู้สึกหวั่นไหวพิกล  แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีทีเดียว ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ??
           เธอตั้งคำถามมากมายที่ไม่ได้คำตอบภายในใจ   จนรอนและแฮร์รี่กึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น   ทำให้สองสาวหันไปสนใจพวกเขาทันทีราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
           “สงสัยเฮอร์ไมโอนี่กับนายต้องนอนที่นี่แล้วล่ะ”   รอนพูดขึ้นขณะกำลังหาของกินในครัวอย่างชมักเขม้น   จินนี่บ่นจนเขาเดินออกมาจากครัวอย่างไม่พอใจ
           กินอะไรนักหนา  พอได้แล้วรอน!!”    
           แต่ยังไม่วายถือทาร์ตไข่ติดมือมาสามชิ้นนั่นยังไม่นับรวมที่อยู่ในปากเขาอีกหนึ่ง     ก่อนจะเดินมานั่งข้างๆ เฮอร์ไมโอนี่    ซึ่งจินนี่ก็รู้ดีว่าพี่ชายของตนชอบเฮอร์ไมโอนี่อยู่จึงลุกขึ้นจากตรงนั้น
           จินนี่กุมมือเฮอร์ไมโอนี่แน่นส่งสายตาเป็นนัยๆ ฉันพร้อมเป็นที่ปรึกษาเธอเสมอ’   ก่อนจะเดินขึ้นห้องไป 
           แฮร์รี่มองตามจินนี่ไปจนลับสายตา   รอนจึงกระแอมเสียงดังจนแฮร์รี่รู้สึกตัว  พวกเขาเริ่มคุยถึงสาเหตุที่แฝดของเขาถูกทำร้ายและหายตัวไป
           “ฉันคิดว่าโวลเดอมอร์   ต้องกำลังวางแผนอะไรซักอย่างแน่  เรื่องมันเชื่อมโยงกันจนฉันเริ่มกังวลแล้วนะเนี่ย”  รอนพูดก่อนจะหยิบน้ำฟักทองขึ้นดื่ม
           “แล้วเราจะทำยังไงกันต่อล่ะ”  เฮอร์ไมโอนี่คิดไม่ตก
           “เราจะเริ่มออกตามหาฮอลครัก  ชิ้นต่อไปและทำลายทิ้งทันทีเมื่อมีโอกาส  และแน่นอนมันจะเป็นการตัดกำลังเขา  ก่อนที่เขาจะแข็งแกร่งไปกว่านี้!!
           สุดท้ายก็โยงเข้ามาเรื่องการกลับมาของจอมมาร  ที่ใครๆ ต่างคิดว่าพวกเขาโกหก    และต่างสันนิฐานกันว่าพวกเขาผู้ต่อต้านคงจะถูกผู้เสพความตายเก็บเรียบจนไม่เหลือ เหมือนกับเฟร็ดก็เป็นได้
           เมื่อรอนพูดมาถึงตอนนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ขอตัวทั้งสองก่อนจะเดินขึ้นห้องไปท่ามกลางความสงสัยของรอน
           “นายว่าเธอเป็นอะไร?”   และแฮร์รี่ก็ส่ายหน้าเป็นเชิงบอกว่าตนก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาจับไหล่เพื่อน    และส่งสายตาเป็นเชิงบอกว่า    ตอนนี้ล่ะ  รีบทำคะแนนก่อนที่นายจะพลาดโอกาส  และเดินตามเฮอร์ไมโอนี่ขึ้นข้างบนไป 
           รอนทำหน้าครุ่นคิดไม่ตกกับสายตาของแฮร์รี่   ก่อนจะตัดสินใจ 
           ‘พรุ่งนี้แหละ  ฉันจะบอกเธอให้ได้..เฮอร์ไมโอนี่    และนั่งยิ้มให้กับตัวเองเพียงลำพังหน้าเตาผิงที่ค่อยๆ มอดลง   อากาศที่เริ่มเย็นแผ่เข้ามาจนเขากอดตัวเองด้วยความหนาว   และวิ่งขึ้นห้องตามเพื่อนๆ ไป



 
......................................................................................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น