EP.6
อดีต…ปวดใจ
แฮร์รี่ที่เดินขึ้นมาชั้นบนเพื่อพักผ่อน ก็บังเอิญผ่านไปเห็นจินนี่นั่งเล่นอยู่ในห้องโถงชั้นบนสุดของบ้านโพรงกระต่าย กับพิกมี่พัฟ ตัวสีชมพูน่ารัก มันพยายามที่จะแลบลิ้นยาวๆ ของมันออกมาเลียจมูกสาวน้อยผมแดงตรงหน้า
เธอดึงมันออกพลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันสังเกตุว่ามีบุคคลที่ 3 อยู่ในห้องนี้ด้วย
เธอดึงมันออกพลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันสังเกตุว่ามีบุคคลที่ 3 อยู่ในห้องนี้ด้วย
“ฮ่าๆๆๆๆ อย่าสิ มันจั๊กจี้นะ!”
แฮร์รี่ค่อยๆ เดินมานั่งข้างหลังจินนี่จนตัวทั้งสองเบียดชิดกัน จินนี่ตกใจหันไปขวับไปมองทันทีทำให้หน้าผากของเธอกระแทกเข้ากับแว่นของแฮร์รี่อย่างจัง
“โอ๊ย!!!!!” เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จินนี่ตกใจวางพิกมี่พัฟลงบนพรมก่อนจะเข้ามาดูอาการของแฮร์รี่
“ให้ตายเถอะแฮร์รี่!! นั่น เธอเป็นอะไรมากรึป่าว!!??” สาวผมแดงถามถามอย่างร้อนรนจนลืมไปว่าตนก็เจ็บหน้าผากเหมือนกัน
จินนี่ถอดแว่นเขาออกพบว่าที่สันจมูกคมสวยมีรอยแว่นฝังอยู่ลึกพอสมควร และรอยมันกลับเริ่มแดงขึ้นจนกลายเป็นสีม่วงแลดูน่ากลัว เธอตกใจหยิบไม้กายสิทธิ์ออกมาเพื่อรักษาเขา แต่แฮร์รี่คว้ามือเธอไว้และดึงเธอเข้ามาใกล้ ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนปากบางนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบา
“!!!”
“…”
มันช่างหวานหอมเหลือเกินในความรู้สึกของจินนี่ เป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์แต่แฝงไปด้วยความวาบหวาม ต่างกับตอนที่เธอจูบกับดีน โทมัสอย่างชัดเจน ….ถึงแม้จะรู้สึกดีอยู่บ้างแต่มันน่าอึดอัดและเต็มไปด้วยการบีบบังคับเกินไป!!
แต่ครั้งนี้ไม่เลยเธอรู้สึกดีกับจูบของแฮร์รี่มากจนเธอเผลอเอื้อมมือไปคล้องคอของเขาไว้อย่างแผ่วเบา แฮร์รี่รู้สึกถึงการหายใจที่เริ่มติดขัดของสาวน้อยตรงหน้า เขาค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกและทั้งสองก็มองหน้ากันด้วยสายตาลึกซึ้งอยู่เนิ่นนานก่อนที่จินนี่จะขอตัวไปพักผ่อน
“เอ่อ คือมันดึกมากแล้ว ฉันคิดว่า..” จินนี่หน้าแดงด้วยความเขินอาย และพูดติดขัดจนชายตรงหน้าเผลอยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“ได้สิ ฉันจะไปส่ง” และเขาก็ดึงเธอขึ้นจากพื้น แฮร์รี่เป็นฝ่ายพาเธอไปส่งที่ห้อง ก่อนจะล่ำลากันที่หน้าประตู และราตรีนิททราอันแสนหวานกำลังรอพวกเขาอยู่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ในห้องนอนมีร่างทั้งสองกำลังนอนอยู่ จินนี่ที่พึ่งกลับเข้ามาในห้องได้ไม่นานก็รีบกล่าวราตรีสวัสดิ์กับเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง โดยไม่ได้สังเกตถึงสีน่าและท่าทางที่แปลกไปของสาวน้อยผมแดงเลย
เธอกล่าวราตรีสวัสดิ์สาวน้อยก่อนจะหันมาสนใจหนังสือในมือ เนื้อหาทั้งหมดไม่ได้เข้าหัวเธอเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ในหัวของเธอคิดแต่เรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับแฝดทั้งสอง รวมไปถึงเรื่องที่ แฮร์รี่ และรอนวิเคราะห์ถึงความเชื่อมโยงต่างๆ ที่ว่าเป็นเพราะเจ้าแห่งศาสตร์มืดกำลังวางแผนทำอะไรบางอย่าง
จากภาพความเชื่อมโยงของ และเจ้าแห่งศาสตร์มืดที่เข้ามาในหัวของแฮร์รี่ ….แต่ภาพเหล่านั้นไม่ปะติดปะต่อกันอย่างที่มันเคยเป็นทำให้แฮร์รี่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ว่าโวลเดอมอร์ต้องการอะไรกันแน่ นั่นทำให้ความวิตกยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น และจู่ๆ ภาพของชายร่างสูงผมแดงก็แล่นเข้ามาในหัวของเฮอร์ไมโอนี่
ภาพตั้งแต่ปี 4 ที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือในห้องโถงและมีนักเรียนที่ถึงเกณฑ์ ทยอยกันเขียนชื่อลงไปในถ้วยอัคนี แต่จู่ๆ แฝดวีสลี่ย์ก็วิ่งเข้ามาเรียกเสียงเฮให้กับนักเรียนกริฟฟินดอร์ได้เป็นอย่างดี พร้อมกับหลอดแก้วที่บรรจุน้ำยาสีใสในมือ มันคือน้ำยาเพิ่มอายุ!!!
'มันไม่มีทางได้ผล!!'
เฮอร์ไมโอนี่พูดสบประมาทแฝดทั้งสองทันที ทั้งคู่เดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่และนั่งกระกบเธอและส่งสายตากวนๆ มาให้ เธอบอกว่าดัมเบิลดอร์ไม่มีทางหลงกลพวกสมองตื้นไร้สติหรอก และเสียงข้างกายเธอก็ดังขึ้น
‘ก็เพราะว่ามันสมองตื้นไร้สติน่ะสิ’ แว๊บแรกเธอแยกออกทันทีเลยว่าเขาคือเฟร็ด เพราะสายตาเจ้าเล่ห์กว่าจอร์จและใบหน้าคมคายชวนให้สาวๆ ต่างลุ่มหลงยิ่งกว่าน้ำยาลุ่มหลงที่ขายในร้านขายของเก่าในตรอกไดแอกอนซะอีก นั้นทำให้เฮอร์ไมโอนี่ได้เผลอจ้องตาเขาด้วยความหลงใหล ก่อนจะหลุดออกมาจาก ภวังค์เมื่อสายตาของเฟร็ดละออกไปแล้ว
ขณะที่พวกแฮร์รี่กำลังทำรายงานของ ศ.สเนป อยู่นั้น หนึ่งในแฝดก็ปากระดาษมาให้รอน ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นจอร์จ เธอเงยหน้ามองพบว่าเขาคือเฟร็ด ใจความในกระดาษคือ ‘รีบๆ หน่อยเดี๋ยวของดีจะไม่มีเหลือ’ ทำนองนี้ และรอนก็ถามเขากลับว่าเขามีคู่สำหรับงานเต้นรำแล้วงั้นหรอ เฟร็ดทำสายตาเชิง ‘คอยดูละกัน’ และปาก้อนกระดาษใส่แองเจลิน่า เฮอร์ไมโอนี่ละจากรายงานขึ้นมามองเฟร็ดที่นั่งตรงข้ามกับเธอ แองเจลิน่าตวาดเฟร็ด และเขาก็เอ่ยปากพร้อมประกอบท่าทาง
‘เธอ อยากไปงานเต้นรำ กับฉันมั้ย’ ไม่ใช่แค่เฮอร์ไมโอนี่ แต่เป็นจอร์จด้วยที่ดูเหมือนจะตกตะลึงกับคำชวนไปงานเต้นรำของเฟร็ด แต่เขาก็ได้แค่ยิ้มบางๆ ให้กับท่าทางแฝดของตัวเองและก้มหน้าทำรายงานต่อ
แต่เฮอร์ไมโอนี่ สิ จากที่ตั้งใจจะรอส่งรายงานพร้อมเพื่อนๆ ต่อจากนั้นจะไปทดลองของเล่นวีสลี่ย์ที่เธอไม่คิดจะเฉียดตัวเข้าไปใกล้ แต่สองแฝดลงทุนเชิญเธอไปเป็นเกียรติ ก็เป็นอันว่ายกเลิก เฮอร์ไมโอนี่รีบลุกจากโต๊ะไปส่งรายงานให้ ศ.สเนปก่อนใคร เธอเดินกลับที่โต๊ะ และพูดกระแทกเสียงใส่รอนที่กำลังนั่งพิจารณากระดาษในมือที่เฟร็ดส่งมาให้ จนทำให้เขาตกใจปล่อยมันปลิวหลุดมือไป
‘ฉันไม่อยากจะยุ่งหรอกนะ เธอคงไม่อยากผิดใจกับแฝดของเธอ ก็แล้วแต่!!’
ท่ามกลางสายตาตกตะลึง+งง ของแฮร์รี่และรอน และเฮอณ์ไมโอนี่ที่เดินกระแทกเท้าจากไป
ท่ามกลางสายตาตกตะลึง+งง ของแฮร์รี่และรอน และเฮอณ์ไมโอนี่ที่เดินกระแทกเท้าจากไป
จอร์จมองตามเฮอร์ไมโอนี่เขานึกในใจ ‘เธอรู้เรื่องเราได้ไงกัน..?’ และเฟร็ดยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจก่อนจะนั่งก้มหน้าทำรายงานอย่างตั้งใจราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น…
“เด็ก เด็กน้อยเอ๋ย…” เสียงนี้อีกแล้ว
เสียงคนแก่ดังขึ้นอีกครั้งเรียกความสนใจเฮอร์ไมโอนี่ให้หลุดออกจากความคิด ก่อนจะมองหาต้นตอของเสียง เธอวางหนังสือไว้โต๊ะ ข้างเตียง แต่มันเลื่อนไปโดนสร้อยล็อกเก็ตที่วางไว้อยู่ก่อนแล้ว จนมันหล่นลงกระทบพื้นเสียงดัง
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เตียงของจินนี่เพราะกลัวเธอจะตื่นแต่เปล่าเลย เธอยังหลับสนิท
เฮอร์ไมโอนี่มองไปที่เตียงของจินนี่เพราะกลัวเธอจะตื่นแต่เปล่าเลย เธอยังหลับสนิท
เฮอร์ไมโอนี่หันมาสนใจล็อกเก็ตก่อนจะหยิบมันขึ้นมาถือไว้ และพลิกหาดูร่องรอยของความเสียหาย แต่ก็ไม่พบ เธอกำลังจะวางมันลงบนโต๊ะอีกครั้งแต่คราวนี้เสียงแหบพร่า เสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้งมันใกล้เหลือเกินราวกับอยู่ในมือ...!!
ใช่!! เสียงนี้อาจจะมาจะในล็อกเก็ตก็ได้เธอยกมันขึ้นมาแนบหู และเป็นอย่างที่คิด เสียงมันดังมาจากในนี้
เธอเปิดฝาล็อกเก็ตออกทันใดนั้น สำแสงสีฟ้าโปร่งใสก็พวยพุ่งออกมาห่อหุ้มตัวเธอ ก่อนที่ร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่กระตุกวูบหายไปพร้อมกับลำแสงนั้น พร้อมกลับความมืดที่เข้ามาปกคลุมห้องอีกครั้ง…
ใช่!! เสียงนี้อาจจะมาจะในล็อกเก็ตก็ได้เธอยกมันขึ้นมาแนบหู และเป็นอย่างที่คิด เสียงมันดังมาจากในนี้
เธอเปิดฝาล็อกเก็ตออกทันใดนั้น สำแสงสีฟ้าโปร่งใสก็พวยพุ่งออกมาห่อหุ้มตัวเธอ ก่อนที่ร่างกายของเฮอร์ไมโอนี่กระตุกวูบหายไปพร้อมกับลำแสงนั้น พร้อมกลับความมืดที่เข้ามาปกคลุมห้องอีกครั้ง…
........................................................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น