EP.18
บ้านแตก
สุดท้ายหลังจากพยายามไกล่เกลี่ยให้สาวผมสั้นกลับบ้าน แต่ก็ไม่เป็นผล เธออ้างว่าบ้านที่เธอเช่าอยู่ก็ถูกพวกเจ้าหนี้รื้อค้นจนยับเยิน เมื่อได้ยินน้ำเสียงและแววตาที่หวาดกลัวของโอลิเวีย เฟร็ดซึ่งถือว่าเคยเป็นคนรู้ใจกันมาก่อน และในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจึงให้หญิงสาวตามมาที่ห้องพักของเขาด้วยด้วยความจำใจ และหวังว่าคนรักของเขาจะกลับมาถึงห้องแล้ว….
เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ไม่พบร่างบางของเฮอร์ไมโอนี่อยู่ในห้องรับแขก หรือห้องครัวเลยแม้แต่เงา เฟร็ดจึงเปิดประตูเข้าไปในห้องนอน
ที่มีแต่ความว่างเปล่า …เฮอร์ไมโอนี่ยังไม่กลับมา!!
เฟร็ดปิดประตูห้องดังเดิมก่อนจะสวมเสื้อโค้ท และวิ่งออกไปจากห้องพักอย่างรวดเร็วท่ามกลางแรงยื้อของโอลิเวีย ที่พยายามห้ามเขาเพราะที่นี่ ในยามค่ำคืนมีแต่อันตรายหลายรูปแบบ ที่คาดไม่ถึง นั่นจึงทำให้เฟร็ดยิ่งร้อนใจ เมื่อยังไม่เห็นคนรักของตนอยู่ในห้องพัก ก็ไม่อาจวางใจได้
เขาสะบัดแขนอย่างแรงจน ร่างของโอลิเวียล้มลงกับพื้น และเสียงปิดประตูที่ดังขึ้น ความเงียบเริ่มกลับมาปกคลุมห้องอีกครั้ง พร้อมกับใบหน้าสวยที่บิดเบี้ยวด้วยความแค้นใจ
“ต้องรับศึกใหญ่หน่อยนะ เฟร็ดดี้… หึ!”
ขาเรียวของเฮอร์ไมโอนี่พาร่างที่บอบช้ำทั้งกายใจ กลับมายังห้องพักของตนเอง เธอไขประตูห้องเขาไปอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟานุ่มด้วยแววตาเลื่อนลอย ก่อนจะถอดประเป๋าวางไว้ข้างกาย
ร่างบางสะบัดหัวไล่ความเศร้าหมองออกไป แต่ไม่ว่าจะทำยังไงน้ำตาก็ไม่ยอมหยุดไหลเสียที ภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ยังตามมาหลอกหลอนเธอทุกครั้งที่หายใจ …ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน?!
แอ๊ดดด!
เสียงประตูห้องนอนถูกเปิดออก เฮอร์ไมโอนี่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง เพราะกลัวว่าคนรักจะเห็นความอ่อนแอของเธอ ขอเวลาอีกนิดเถอะ…แล้วเธอจะถามความจริงกับเขาในสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ทั้งหมด!
“กลับมาแล้วหรอคะเฟร็ดดี้ …เอ๋?”
เสียงหวานดังขึ้นจากอีกฟากของบานประตูที่เปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวผมสั้นสีน้ำตาลอ่อน ในชุดเสื้อเชิ้ตผู้ชายเพียงตัวเดียวกำลังมองมาที่เฮอร์ไมโอนี่ด้วยใบหน้าตื่นตกใจ เฮอร์ไมโอนี่จำได้ทันที เธอคือโอลิเวีย พรีเฟ็คของเรเวนคลอ และเป็นอดีตคู่ควงของเฟร็ด ….ผู้หญิงที่จูบกับคนรักของเธอตอนนั้นเอง!
แววตาที่โศกเศร้าของเฮอร์ไมโอนี่แปรเปลี่ยนเป็น ความแค้นทันทีที่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นคือ โอลิเวีย ผู้หญิงที่เธอเกลียดพอๆ กับแพนซี่ พาร์กินสัน เมื่อนึกถึงเวลาที่โอลิเวีย และคนรักของเธอพลอดรักกัน เมื่อสมัยเรียนเธอก็แทบจะระเบิดโรงเรียนทิ้งเสียให้ได้
โอลิเวีย ก้าวยาวๆ มาหาเฮอร์ไมโอนี่ที่มองมายังโอลิเวียอย่างอ่านความคิดของอีกฝ่าย แต่หญิงผมสั้นกอดอกมองอดีตนักเรียนกริฟฟินดอร์ ด้วยแววตาสมเพชนิดๆ
“ไง สวัสดีจ่ะฉัน โอลิเวีย บลูม …ถ้าเธอคือเฮอร์ไมโอนี่ ผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศคงไม่ยากที่จะจำฉันได้…”
“เข้ามาทำอะไรในห้องฉัน!”
“จุ๊ๆๆ อย่าพึ่งอารมณ์เสียสิจ๊ะสาวน้อย ฉันก็แค่เป็นผู้เคราะห์ร้ายที่แฟนเธอไปพบเข้าเท่านั้น…”
“อ๋อหรอ! งั้นเธอควรจะออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้ เพราะข้อหนึ่ง ฉันไม่อนุญาตให้ผู้หญิงหน้าแปลกเข้ามาในที่ของฉัน ….และข้อสอง ฉันไม่ชอบขี้หน้าเธอรีบไปให้พ้นซะ!! ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจข้อหาบุกรุกที่ส่วนบุคคล!!”
สิ้นเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ โอลิเวียก็เข้ามากระชากผมของร่างบางจนหน้าเงยขึ้นมาจ้องกับเธอ
เฮอร์ไมโอนี่พยายามแกะมือเหนียวๆ นั่นออกจากผมมวยของเธอแต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งสองประสานสายตากันอย่างเคียดแค้น
ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออก และชายร่างสูงผมแดงที่ร่างกายอาบไปด้วยเหงื่อก็ปรากฏตรงหน้าพวกเธอ จนโอลิเวียต้องรีบปล่อยมือออก และคว้ามือเฮอร์ไมโอนี่ ให้มาทาบบอกเธอเบาๆ ก่อนจะทรุดตัวลงกับพื้นราวกลับถูกผลัก จนเฮอร์ไมโอนี่ย่นคิ้วด้วยความงงงวย
“ทั้งสองคนทำอะไรทำอะไรกันน่ะ!!” เฟร็ดเดินเข้ามาหาเฮอร์ไมโอนี่และโอลิเวียที่ส่งสายตาน่าสงสารมาให้เขาอย่างขอความช่วยเหลือ แต่เฟร็ดก็ยังยืนอยู่ที่เดิม เธอพยายามปัดป่ายคว้ามือของเฟร็ดแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองอย่างเสียฟอร์ม
“ไม่มี/มี..!!” ทั้งสองสาวพูดพร้อมกันแต่คนละความหมาย เฟร็ดถอนหายใจพลางมองเฮอร์ไมโอนี่ที่จัดผมมวยของตัวเองที่บัดนี้ยุ่งเหยิงจนดูไม่ได้
“ยังไงกันแน่!”
“ฉันกลับมาแล้วเจอนังหัวทรัฟเฟิลนี่ จากนั้นเราก็มีปากเสียงกัน และฉันก็ถูกกระชากผม…” เฮอร์ไมโอนี่ชี้นิ้วเรียวมาที่ผมมวยของเธอที่ยังมีร่องรอยของการโดนทำร้ายมาหมาดๆ
“ไม่จริง! ฉันต่างหากที่ถูกผลักจนล้ม คุณก็เห็นนี่เฟร็ด!!” โอลิเวียพูดอย่างเอาเรื่อง
“นายดูผมฉันสิ!!” เฮอร์ไมโอนี่ก็ไม่ยอมแพ้
“ทั้งสองคนพอซะที!” เฟร็ดขึ้นเสียงเพื่อยุติสงคราม
เพี้ยะ!!!
เสียฝ่ามือบางกระทบเข้าที่แก้มของชายร่างสูงผมแดงอย่างแรงจนใบหน้าของเขาสะบัด เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเฟร็ดด้วยสายตาผิดหวังและน้ำตาก็เริ่มเอ่อคลอที่หน่วยตา หัวใจของเฟร็ดราวกับถูกกระชาก เฮอร์ไมโอนี่คว้าเสื้อคลุมก่อนจะวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของชายร่างสูงที่เริ่มออกวิ่งตามเธอไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน!
“หยุดเดี๋ยวนี้นะเฮอร์ไมโอนี่!!” เฟร็ดคว้าแขนร่างเล็กไว้ได้ทัน ก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด เธอพยายามขัดขืนทั้งทุบ ทั้งตี เขาเพื่อระบายความเสียใจ
เฟร็ดมองร่างบางด้วยความสับสน เพียงไม่นานการกระทำของร่างบางก็หยุดลงด้วยความเหนื่อยล้า แต่เสียงสั่นเครือที่เปล่งออกมายิ่งทำให้เขาเบิกตามองหญิงในอ้อมกอดด้วยความตกใจ
เฟร็ดมองร่างบางด้วยความสับสน เพียงไม่นานการกระทำของร่างบางก็หยุดลงด้วยความเหนื่อยล้า แต่เสียงสั่นเครือที่เปล่งออกมายิ่งทำให้เขาเบิกตามองหญิงในอ้อมกอดด้วยความตกใจ
“ฉันเห็น …นายจูบกับโอลิเวีย…” เฮอร์ไมโอนี่เปล่งเสียออกมาอย่างยากลำบาก ในใจก็นึกย้อนไปถึงความใจร้ายของสามีที่จูบกับหญิงอื่นไม่พอ ยังพาเธอมาที่ห้องของพวกเขาอีก ทำไมเขาถึงไม่เห็นใจเธอเลย…เขาเป็นสามีของเธอนะ!!
“เธอเห็น…!!” เฟร็ดมัวแต่จดจ่อกับการตามหาเฮอร์ไมโอนี่เมื่อหัวค่ำ จนลืมเรื่องที่เขาพาโอลิเวียมาที่ห้องเสียสนิท
“….” ร่างบางไม่ตอบพลางพยักหน้า ทั้งๆ ที่น้ำตายังไหลออกมาเปรอะแก้มเนียนไม่หยุด ทำให้เฟร็ดยิ่งรู้สึกผิดและเสียใจมากกับการกระทำของเขา ทั้งๆ ที่พวกเขามาฮันนีมูนด้วยกันแท้ๆ แต่กลับมีแต่เรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกเขา และเขายังทำผิด ทำให้คนรักเสียน้ำตา…
จู่ๆ ชายร่างสูงก็ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น ท่ามกลางดวงตาคู่สวยของร่างบางที่เบิกกว้างด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะรีบดึงชายร่างสูงให้ลุกขึ้นด้วยความเขินอาย แต่ก็ไม่สำเร็จ
“ฉันขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอกำลังเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นกับ โอลิเวีย แล้วเรื่องเมื่อเย็นนี้เราก็บังเอิญเจอกัน เธอเมามากบอกว่ากำลังถูกตามฆ่า โดยเจ้าหนี้จนกลับบ้านไม่ได้ เลยขอมาพักอยู่กับฉัน”
“แล้วที่ฉันกลับมาไม่เจอนาย…?”
“เธอหายไปจากสวนสาธารณะ ฉันคิดว่าเธอกลับห้องแล้ว แต่ก็ยังไม่กลับฉันก็เลยออกไปตามหาเธอนี่แหละ ยกโทษให้ฉันเถอะนะ…” ชายร่างสูงส่งสายตาอ้อนวอนมาให้หญิงคนรักราวกับลูกแมวตัวน้อยๆ
“ขอคิดดูก่อน…” สิ้นเสียงของเฮอร์ไมโอนี่ ร่างบางของเธอก็ลอยวืดไปบนอากาศตามแรงอุ้มของชายร่างสูง จนเธอหวีดร้องอย่างตกใจ ก่อนจะจ้องเขมงมาที่ดวงตาเจ้าเล่ห์
“ที่รัก ผมขอโทษอภัยให้ผมเถอะนะ” ก่อนจะโน้มหน้าเข้ามาใกล้ร่างบางหมายจะจุมพิตเธอ แต่เฮอร์ไมโอนี่ดันตัวเขาออกห่างด้วยความตกใจ
“โอเคๆๆๆ ฉันยกโทษให้แล้วค่ะ!!”
“จริงหรอ?”
“จริงสิคะ…อุ๊บ!!” ริมฝีปากของเฮอร์ไมโอนี่ถูกครอบครองอย่างนุ่มนวล และเนิ่นนานโดยชายคนรักที่กำลังอุ้มเธอแนบอกในขณะนี้
“แล้วจะเอายังไงต่อ กับเรื่องของโอลิเวีย?” ร่างบางเงยหน้าถามชายข้างกายที่กำลังกุมมือเธอ เพื่อเดินกลับห้องพัก
“ให้ยัยนั่นพักที่ห้องเดียวกับเราคงไม่เหมาะ แต่จะส่งเธอกลับบ้านก็อันตรายเกินไป”
“นั่นสินะ …ถึงฉันจะไม่ชอบโอลิเวียตั้งแต่…”
“ตั้งแต่?”
“ก็ตั้งแต่ที่นายยังคบกับยัยนั่นแหละ! …ฉันดูจากท่าทีของโอลิเวียก็รู้ว่าเธอยังรักนายอยู่ไม่น้อย นายควรจะอยู่ห่างเธอไว้ ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายไปจากนายซะเอง” ร่างบางหลุบสายตาลงต่ำก่อนจะรีบเดินจ้ำ นำร่างสูงไป
แต่เขารีบก้าวตามเธอไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรวบตัวร่างบางไว้ในอ้อมกอดจากด้านหลัง พลางซุกหน้าเรียวลงซุกกับแก้มนวลอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอันหนักแน่น
“ฉันเลือกเธอนะเฮอร์ไมโอนี่ และเธอจะเป็นคนสุดท้ายของฉันตลอดไป”
“แหม …ปากหวานจังเลยที่รักของฉัน” เฮอร์ไมโฮนี่กัดฟันพูดประชดด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจุมพิตที่แก้มเรียวของคนรัก ก่อนที่ทั้งสองจะกอดอย่างรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ
เฟร็ดตัดสินใจเปิดห้องใหม่ โดยยกห้องเก่าให้กับโอลิเวีย แม้จะไม่ใช่ห้องสูท เพราะช่วงเทศกาลแบบนี้ห้องพักชั้นหนึ่งอย่างห้องสวีท และห้องสูทก็เต็มหมดแล้ว เหลือเพียงห้องธรรมดาแต่ก็ไม่ได้คับแคบอะไร เพียงแต่ไม่ได้อยู่ชั้นสูงๆ อย่างตอนแรก แต่วิวภายนอกของแสงไฟที่กรุงโรมก็ยังคงงดงามดังเดิม…
เฮอร์ไมโอนี่ฟุบหน้าลงบนเตียงอย่างหมดแรง ทั้งที่ยังอยู่ในชุดเสื้อคลุม โดยเฟร็ดอาสากลับไปเอาข้าวของทั้งหมดจากห้องเดิมด้วยตัวเอง
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับ ร่างบางของโอลิเวียกำลังหลับใหลอยู่บนโซฟา ในชุดเสื้อเชิ้ตของเฟร็ด เขาละสายตาจากร่างบาง ก่อนจะรีบเข้าไปเก็บข้าวของภายในห้องเรียบร้อย โดยไม่ลืมที่จะหยิบผ้านวมผืนหนาในห้องติดมือออกมาด้วย ก่อนจะกางผ้านวมออกคลุมร่างบางอบ่างเบามือ
“อืม…” โอลิเวียพลิกตัว ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกถึงผ้าผืนใหญ่ที่กำลังคลุมตัวเธออยู่ด้วยฝีมือชายหนุ่มผมแดง ที่ยืนค้ำร่างของเธออยู่
เฟร็ดเห็นหญิงสาวผมสั้นรู้สึกตัวและทำท่าจะลุกขึ้นจึงรีบผละออกมาจากหน้าโซฟาทันที แต่ก็ถูกมือบางของเธอฉุดจนเขาถึงกับเซล้มลงบนโซฟาอย่างแรง โอลิเวียพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของเฟร็ดอย่างรวดเร็วราวกับเธอได้วางแผนมาเป็นอย่างดี
“คุณไปไหนมา ฉันนอนรอคุณตั้งนานแล้วนะเฟร็ด…” เสียงหวานออดอ้อนชายหนุ่ม พร้อมกับมือที่เริ่มปัดป่ายไปทั่วร่างกำยำของเขาอย่างจาบจ้วง เฟร็ดพยายามดันตัวเธอออก
แต่ด้วยช่วงตัวของโอลิเวียที่ราวกลับนางแบบก็มิปานนั่นทำให้เธอได้เปรียบเขามาก เธอโน้มตัวลงมาหาชายร่างสูงก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงปิดไฟจากโคมข้างโซฟา ก่อนที่ทุกอย่างจะเข้าสู่ความเงียบเหลือไว้แต่เพียงเสียงหายใจที่สอดประสานกันของทั้งสองคน….
.........................................................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น