HOME........... แนะนำนิยาย.......... Gallery............VIDEO........... ติดต่อเรา

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

EP.10 Deathly Hallows เราคือ..นายแห่งยมทูต เฟร็ด/เฮอร์ไมโอนี่


EP.10

ความลับของแฝด




          เฮอร์ไมโอนี่วิ่งออกมาจากบ้าน  ก่อนจะมาหยุดอยู่ในสวน  ตรงหน้ามีชายร่างสูงผมแดงนอนคว่ำหน้าหมดสติอยู่แววตาแห่งความดีใจฉายชัดขึ้นมาบนดวงตาคู่สวยทันที!

          เฮอร์ไมโอนี่พยายามพยุงร่างเฟร็ดขึ้นแต่ก็ไร้ผลตัวเขาทั้งใหญ่    และหนักเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ แบบเธอ
          เมแกนที่เดินตามมาทีหลัง   จัดการเสกคาถาเคลื่อนย้ายสิ่งของ  ย้ายร่างของชายหนุ่มเข้ามาในบ้าน   ร่างบางถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน 

          ‘เราเป็นห่วงเขาจนลืมแม้แต่คาถาง่ายๆ เลยหรอ!!’   ก่อนจะเดินตามเมแกนเข้าไปในคฤหาสน์

          สองวันที่ผ่านมา เฟร็ดยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นเลย   ตลอดเวลาที่ผ่านมา เฮอร์ไมโอนี่นั่งเฝ้าดูอาการชายผมแดงอย่างใกล้ชิด  จนในหน้า  และร่างกายเริ่มโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด   ดวงตาที่เคยสดใสกลับหม่นแสงลงด้วยความเหนื่อยล้าจากการไม่ค่อยได้พักผ่อนเป็นเวลา 2  วันเต็มๆ 
          เฮอร์ไมโอนี่ขอร้องให้เมแกนช่วยใช้คาถาเรียก  กระเป๋าขยายพื้นที่ตรวจจับไม่ได้  มาให้เธอ   เพราะเฮอร์ไมโอนี่ไม่สามารถเรียกของจากที่ไกลๆ ขนาดนั้นได้   และเธอก็รู้ว่าที่บ้านโพรงกระต่ายไม่ปลอดภัยที่จะกลับไปอีก  เธอต้องพร้อมเสมอสำหรับการเดินทางตามหาเครื่องรางที่กำลังจะมาถึงเมื่อไหร่ไม่อาจล่วงรู้ได้… 

           หญิงชราให้เอลฟ์มาเสิร์ฟอาหารสามเวลา   และอาหารว่างมือดึกอีกอย่างไม่ให้ขาด   แต่ทุกครั้งที่เอลฟ์กลับลงมา   อาหารก็พร่องไปเพียงนิดหน่อยเท่านั้น  หญิงชราเดินเข้ามาในห้องรับรองแขกที่  บัดนี้แขกของเธอกำลังนอนไม่ได้สติพักอยู่   นางเอามือแตะเบาๆ  ที่บ่าของเด็กสาว   หญิงชรามองเธอด้วยสายตาห่วงใย 
           “เขาจะปลอดภัย
           “…”
           เด็กสาวเพียงแต่ส่งยิ้มกลับไปด้วยใบหน้าอิดโรยเท่านั้น  ก่อนจะเบนสายตากลับมายังร่างไร้สติตรงหน้า

            ในห้องที่มืดมิดมีเพียงแสงจากดวงจันทร์ทอดลงมาจากหน้าต่างข้างเตียง   ส่องให้เห็นการเคลื่อนไหวที่เป็นจังหวะของคนทั้งสอง   ลมหายใจที่สม่ำเสมอบอกให้ทราบว่าทั้งคู่กำลังโลดแล่นอยู่ในห้วงนิทรา 
            ร่างสูงค่อยๆ ลืมตาในความมืดใช้เวลาไม่นานนัก สายตาก็เริ่มชินกับความมืดได้อย่างรวดเร็ว  เขากวาดสายตามองไปรอบๆ   ห้องที่ถูกตกแต่งอย่างเรียบง่ายมีเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ชิ้น  แต่ทว่าทุกชิ้นดูมีมูลค่าสูงมากอย่างที่เขา  และครอบครัวคงไม่สามารถเป็นเจ้าของได้     ก่อนที่สายตาจะมาหยุดอยู่ที่เงาตะคุ่มๆ ข้างเตียง

           ผมสีน้ำตาลลอนสวยสยายบนเตียงต้องกับแสงจันทร์อย่างงดงามราวกับเส้นไหมชั้นดี  ใบหน้าที่แม้เพียงเห็นแค่เสี้ยวหน้าก็ช่างงดงาม อ่อนหวาน  จนไม่ว่าชายใดได้ประสบพบเจอต้องลุ่มหลงไปกับความงามของเธอแน่นอน
           มือบางที่กอบกุมมือเขา  ช่างบอบบาง  และอบอุ่นเหลือเกินในความคิดของเขา   จนไม่อยากจะปล่อยมือเธอ
          เฟร็ดขยับตัวลงจากเตียงอย่างแผ่วเบา  ก่อนจะก้มลงช้อนร่างบางขึ้นมาอยู่อ้อมกอด   ถึงแม้จะรู้สึกปวดระบมไปทั่วทั้งร่างกายแต่เขาก็ไม่หวั่น    เฟร็ดวางเธอลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าเขาอาจจะทำให้เธอตื่น   แต่เปล่าเลยเธอหลับสนิท
ร่างกายคงอ่อนเพลียมาก
           เฟร็ดนั่งลงบนเตียงข้างๆ  เธอ   เขาเอื้อมมือไปปัดปอยผมที่ลงมาปรกหน้าออกก่อนจะสำรวจใบหน้าของเธออีกครั้ง  ดวงตาบอบช้ำ  ใบหน้าอิดโรยกว่าเมื่อตอนที่เขาพบเธอครั้งล่าสุดมาก
          ‘เธอไม่ได้พักผ่อนเพราะต้องคอยดูแลฉันสินะ…’  
             เฟร็ดเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้กับริมฝีปากสีชมพูที่แม้จะดูแห้งผาก  แต่ก็ยังคงอวบอิ่มน่าสัมผัสดังเดิม  จมูกของทั้งสองสัมผัสกัน 
             เขาหลับตาลงอย่างข่มใจก่อนจะเลื่อนไปจุมพิตเบาๆ ที่หน้าผากเนียนของเธอ  และเดินออกจากห้องไป

             เฟร็ดเดินลงบันไดมาเรื่อยๆ   พลางสำรวจบ้านหลังนี้   อันที่จริงจะเรียกบ้านก็ไม่ถูก  มันกว้างขวางและโอ่อ่าราวกับคฤหาสน์  แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นราวกับบ้านหลังเล็กๆ ของเขาเลย   และเมื่อเขาเลี้ยวตรงหัวมุมห้องก็พบเข้ากับหญิงชรานั่งจิบชาอยู่บนโซฟาหน้าเตาผิงในห้องนั่งเล่น  เขาทำท่าจะเดินกลับขึ้นห้องไป
            “ตื่นแล้วหรอพ่อหนุ่ม
            หญิงชราพูดขึ้นทั้งๆ ที่ยังไม่ได้หันมามองด้วยซ้ำ   เฟร็ดเดินมาใกล้เธออย่างระมัดระวัง  เผยให้เห็นใบหน้าของเธอ
            “คุณในตอนนั้น!!... ใช่ที่เราเจอกันในตรอกน็อทเทิร์นใช่มั้ย?!!”    เฟร็ดโพล่งออกมาอย่างตกใจ  หญิงชรายิ้มให้อย่างอบอุ่น  และผายมือให้เขานั่งลงที่โซฟาอีกตัวข้างเธอ
            “ชามั้ย??”   เฟร็ดส่ายหน้าปฏิเสธ
            “แผลเป็นยังไงบ้างล่ะพ่อหนุ่ม..
            “ดีขึ้นแล้วฮะ  นี่ผมมาที่นี่ได้ยังไงเฮอร์ไมโอนี่อีก  คุณไปทำอะไรที่ตรอกน็อทเทิร์นโวลเดอมอร์หมายถึงอะไร?  คือ ผมหมายถึงเขาต้องการอะไรจากผม!!!!”  เฟร็ดยิงคำถามรัวเร็วจนหญิงชรากลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่
            “ใจเย็นพ่อหนุ่ม    ตั้งใจฟังฉันให้ดี…”
         
            หญิงชราเริ่มเล่าว่าตนเป็นใคร   และโวลเดอมอร์กำลังตามหาเครื่องรางยมทูตทั้ง 
3ชิ้น  เพราะมันจะส่งผลให้เขาแข็งแกร่งขึ้น   และหนึ่งในนั้นก็คือหินชุบวิญญาณที่ตอนนี้เฟร็ดได้นำไปทำล็อกเก็ต   ให้เฮอร์ไมโอนี่ด้วยความไม่รู้  และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาพบหญิงชราที่ตรอกน็อทเทิร์น ขณะที่เธอกำลังหลบหนีการตามล่าของเหล่าผู้เสพความตาย
           เมื่อเล่ามาถึงตอนนี้หญิงชราก็หยุดและยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
          “แล้ว… ผมมาที่นี่ได้ยังไง   เฮอร์ไมโอนี่อีก!!”   หญิงชราตวัดสายตาขึ้นมองเด็กหนุ่มตรงหน้า  ก่อนจะเอ่ยปากถามกลับไปว่า
          “แหวนล่ะ?  …มันยังอยู่รึป่าว??!”   เฟร็ดใช้มือคลำๆ  ที่กระเป๋าหน้าอกก่อนจะล้วงมือเข้าไปหยิบมันออกมาส่งให้หญิงชรา  เพราะแต่เดิมมันเป็นของเธอ
          “ผะ ผมคิดว่ามันคือกุญ…..”
          “ใช่!!   มันคือกุญแจนำทาง   แต่ก็ต่างทั้งมีความเหมือนและไม่   กรรมวิธีมันซับซ้อนกว่ามาก   อย่างที่เธอรู้   มันไม่มีจุดหมายปลายทางหรอก มันจะไปในที่ๆ จิตใต้สำนึกของผู้ครอบครองต้องการ”   เธอยกถ้วยชาขึ้นดื่มอีกครั้ง
          “เพราะผมนึกถึง …. ผมถึงได้มาโผล่ที่นี่  แทนนี่จะเป็นบ้านโพรงกระต่าย”   เฟร็ดเริ่มเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด  และนึกขอบคุณแหวนวงนี้   ไม่อย่างงั้นเขาคงกลายเป็นผีเฝ้าศูนย์บัญชาการลับของโวลเดอมอร์ไปแล้ว
         “ที่นั่นไม่ปลอดภัยอีกแล้วหนุ่มน้อย   ฉันจึงต้องพาแม่หนูนั่นมาที่นี่เพื่อทำภารกิจไง
         “เกิดอะไรขึ้นที่บ้านโพรงกระต่าย!!
         “หลังจากที่เธอหายตัวไป โวลเดอมอร์ คงจะโกรธมาก    และก็เป็นเช่นนั้น   เขาส่งผู้เสพความตายไปที่บ้านของเธอ”   เมื่อเห็นเฟร็ดมีสีหน้าวิตกเธอจึงพูดต่อ
         “แต่ตอนนี้ภาคีได้พาตัวเด็กๆ  ไปยังที่ๆ  ปลอดภัยแล้ว
         “คุณรู้เรื่องภาคีได้ไง!!!”   เฟร็ดรู้สึกโกรธที่ความลับของภาคีรั่วไหล
         “ฉันเป็นเพื่อนของ  บาธิลดา  คนเดียวที่ไหน เพื่อนของเธอก็คือเพื่อนของฉัน  ดัมเบิลดอร์ ให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กภาคีรุ่นแรก   แน่นอนพวกเขาต้องรู้จักฉัน”    เฟร็ดนึกย้อนไปถึงห้องประชุมในกริมโมเพลส  ที่มีรูปของผู้ก่อตั้งแขวนอยู่    ในตอนแรกเขานึกว่าผู้หญิงที่ยืนด้านซ้ายมือของดัมเบิลดอร์คือ บาธิลดา  แต่ไม่ใช่เธอ   ผู้หญิงในรูปคือ เมแกน  เพฟเวอร์เรลล์  ที่หน้าคล้าย บาธิลดา อย่างกับฝาแฝด!!

         “ผมเข้าใจแล้ว   แล้วที่คุณพูดถึงคำทำนาย  และภารกิจมันคืออะไรผมอยากรู้”   เฟร็ดชอบเรื่องแบบนี้มาก  การผจญภัยความสนุกสนาน  แต่มันจะหายไปในไม่ช้าแน่นอน   หญิงชราคิดในใจ

         “คำทำนายที่ว่า…”
                 ‘ในยามที่จันทราแห่งรัตติกาลดวงที่สองปรากฏ  ผู้ครอบครองเครื่องรางจะนำพาทั้งความสว่าง   และความมืดกลับมาอีกครั้ง

          เฟร็ดนั่งฟังอย่างตั้งใจ   และเริ่มรู้ถึงความเชื่อมโยง  และเหตุผลของความต้องการจะปกครองโลกผู้วิเศษของโวลเดอมอร์ทันที
          “เขาเก่งกาจ    เขาต้องได้มันไปอย่างแน่นอน  เราจะถูกฆ่าตายจนหมด!!
          “ยังมีอีก หนึ่ง คำทำนาย…”
          เฟร็ดหันมามองหน้าหญิงชราอีกครั้ง  แววตาเป็นประกายด้วยความหวัง  อย่าแรงกล้าทันทีถึงทางออกอีกทางที่ยังเหลืออยู่
          “ผู้สยบจอมมารมีเพียง หนึ่ง    แต่ผู้ยังยั้งเขาได้มีมากกว่า 4…”   
          เมื่อสิ้นเสียงหญิงชรา  ความเงียบก็เข้าปกคลุมห้องนั่งเล่นอีกครั้ง  ก่อนที่เฟร็ดจะเอ่ยด้วยเสียงอันเบาว่า
          “มากกว่า 4 หมะ….หมายความว่าไง?”   เฟร็ดเอ่ยถามด้วยเสียงอันสั่นเทา
          “อาจจะมีอีกคน  หรือไม่มีก็ได้”    บุคคลทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่หลบสายตา   แววตาของ เฟร็ด วูบไหว  ต่างจากหญิงชราที่มองเขาอย่าแน่วแน่
          “สุดท้ายแล้วเขาอีกคน  อีกเพียงคนเดียวต้องตาย
          “คุณบอกได้มั้ย   ว่าคนนั้นคือใคร??”   หญิงชรามองหน้าเฟร็ดนิ่งก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมา
          “คนนั้น   คือเธอไง
          ร่างของเฟร็ดชาไปหมดทั้งร่าง  เขารู้สึกถึงมวลในอากาศที่หนักอึ้ง  หูอื้อ  ตาลาย  ขึ้นมาอย่างกะทันหัน    บ้านทั้งหลังสั่นไหวราวกับถูกแบกอยู่บนหลังโทรล 
          เขาหวนนึกถึงคำทำนายของคุณยายทวด เทสซี่ 
                   ‘มีเพียง 1 ที่รอด  อีกเพียง  1  เท่านั้น  เมื่อมี 1  ต้องไม่มีอีก  1  นั่นเป็นคำสาป

           วันนั้นคงมาถึงแล้วสินะ  เฟร็ด หลับตาลงช้าๆ    หญิงชราเอ่ยเรียก  และส่งถ้วยชาอีกถ้วยให้เขา   ร่างสูงรับมันไว้ก่อนจะพยักหน้าให้หญิงชราเล่าต่อ
           “ฉันรู้จาก รีมัส  ว่าแฮร์รี่และเพื่อนๆ  กำลังตามหา ฮอร์ครักซ์’ …มีอันตรายที่ไม่คาดคิดรอพวกเขาอยู่เบื้องหน้าเขารู้ใช่มั้ย   พวกเขา…”
           “3 คน   ผมทราบมาแบบนั้นเดิมทีมี เฮอร์ไมโอนี่ด้วย   พวกเขาออกตามหาชิ้นต่อไปทันทีหลังจบงานแต่งของบิล และเฟลอร์
          “ใช่ๆ  และก็ทำได้ดีซะด้วยนะ”   หญิงชรายิ้มให้กับตัวเอง    เฟร็ดมองเข้าไปในแก้วชา  กับความคิดที่ทอดไกล        และก่อนที่จะไกลไปมากกว่านี้   หญิงชราก็พูดต่อดึงความสนใจเขากลับมาอีกครั้ง
          “และพวกเธอในฐานะผู้หยุดยั้งแผนการของจอมมาร   เธอกับแม่หนูนั่น  ตัดสินใจดีๆ 
          “สุดท้ายแล้ว   ผลที่ออกมามันก็จบลงเหมือนเดิมใช่มั้ยฮะ?”    เมแกนเอื้อมมือไปแตะแขนของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเป็นห่วง    ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองหญิงชราด้วยแววตาสงบ
          “ผมจะทำ…”




 
.......................................................................................................






สัญลักษณ์ของ 'เครื่องรางยมทูต'




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น